Skip to content
Header
You are on the main content


เอสเพรสโซ่ (Espresso) คืออะไร พร้อมเคล็ดลับในการชงให้อร่อย


หากคุณไม่แน่ใจว่า เอสเพรสโซ่ (Espresso) คืออะไร คุณไม่ได้สงสัยอยู่คนเดียว เพราะแม้จะเป็นกาแฟที่เราคุ้นเคยกันดี แต่หลายคนอาจไม่รู้ว่า “เอสเพรสโซ่” แท้จริงแล้วเป็นทั้งชื่อของเครื่องดื่ม วิธีการชง และแรงบันดาลใจแห่งวัฒนธรรมกาแฟทั่วโลก



เอสเพรสโซ่ Espresso คืออะไร

กาแฟเอสเพรสโซ่ (Espresso) คืออะไร


เอสเพรสโซ่ คือกาแฟเข้มข้นที่ได้จากการสกัดน้ำร้อนที่มีแรงดันสูงผ่านผงกาแฟบดละเอียดในเวลาสั้น ๆ (ประมาณ 25–30 วินาที) จนได้เป็นกาแฟเข้มข้นรสลึก หนาแน่น มีกลิ่นหอมชัด และมีชั้นครีม่าสีทองอยู่ด้านบน ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเอสเพรสโซ่


เอสเพรสโซ่ยังถือเป็น “หัวใจของกาแฟหลายชนิด” เช่น คาปูชิโน่ มัคคิอาโต ลาเต้ หรือมัคคิอาโต อเมริกาโน เพราะเป็นเบสหลักของเมนูเหล่านี้ การเข้าใจรสชาติและวิธีชงเอสเพรสโซ่ที่ดี จึงเป็นพื้นฐานสำคัญของการทำกาแฟทุกประเภท



ต้นกำเนิดเอสเพรสโซ่เป็นมาอย่างไร


เอสเพรสโซ่ถือกำเนิดขึ้นในอิตาลีช่วงปี ค.ศ. 1880 ซึ่งเป็นยุคที่วัฒนธรรมการดื่มกาแฟกำลังเฟื่องฟูไปทั่วทวีปยุโรป ผู้คนเริ่มต้องการกาแฟที่ “เร็วและเข้มข้นกว่าเดิม” จึงเป็นแรงบันดาลใจให้ชาวอิตาเลียนชื่อ แองเจโล โมริออนโด (Angelo Moriondo) คิดค้นเครื่องชงกาแฟด้วยแรงดันไอน้ำขึ้นในปี ค.ศ. 1884


อย่างไรก็ตาม เครื่องชงรุ่นต้นแบบของเขาไม่ได้ถูกผลิตออกมาจำหน่ายจริง จนกระทั่งปี ค.ศ. 1906 ที่งาน World Fair ณ กรุงมิลาน ลุยจิ เบซเซรา (Luigi Bezzera) และ เดสิเอโร ปาโวนี (Desiderio Pavoni) ได้นำเสนอเครื่องชงกาแฟที่สามารถชงกาแฟแบบ “เร่งด่วน” ได้ในไม่กี่วินาที และเรียกเครื่องดื่มนี้ว่า Espresso ซึ่งมาจากคำภาษาอิตาเลียนแปลว่า “รวดเร็ว” หรือ “ทันที” นั่นเอง


จากจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ ในอิตาลี กาแฟเอสเพรสโซ่ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของกาแฟทั่วโลก เป็นวัฒนธรรมที่แฝงความพิถีพิถัน ความอบอุ่น และความเร่งรีบของยุคสมัยไว้อย่างกลมกล่อม



ความแตกต่างระหว่างกาแฟเอสเพรสโซ่กับกาแฟทั่วไปคืออะไร


1. การจัดเตรียม


การชงกาแฟด้วยวิธีการทั่วไป เช่น ดริปหรือเฟรนช์เพรส มักใช้เวลานานกว่า เนื่องจากต้องผ่านกระบวนการกรองน้ำผ่านผงกาแฟอย่างช้า ๆ เพื่อดึงรสชาติออกมาให้ครบถ้วน ในขณะที่การชง เอสเพรสโซ่ (Espresso) ใช้แรงดันสูงอัดน้ำร้อนผ่านผงกาแฟบดละเอียด ใช้เวลาเพียง 25–30 วินาที ก็ได้กาแฟที่เข้มข้นและหอมกรุ่น


2. ความละเอียดในการบด


เอสเพรสโซ่ต้องใช้เมล็ดกาแฟบดละเอียดมาก เพื่อให้แรงดันสูงสามารถสกัดกลิ่นและรสชาติได้เต็มที่ ส่วนกาแฟทั่วไป เช่น ดริปหรือเฟรนช์เพรส จะใช้ระดับการบดที่หยาบกว่าหรือปานกลาง เพื่อให้เหมาะกับระยะเวลาการชงที่นานกว่าและแรงดันน้ำที่ต่ำกว่า


ความแตกต่างระหว่างกาแฟเอสเพรสโซ่กับกาแฟทั่วไป


หัวข้อ กาแฟเอสเพรสโซ่ กาแฟทั่วไป
การจัดเตรียม ใช้เครื่องชงแรงดันสูง น้ำร้อนถูกอัดผ่านผงกาแฟอย่างรวดเร็ว ใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาที ใช้วิธีกรอง เช่น ดริป, เฟรนซ์เพรส หรือแบบกรองหยด ซึ่งใช้เวลานานกว่า
เวลาในการชง รวดเร็วมาก (ประมาณ 25–30 วินาที) ใช้เวลานานกว่า (1–5 นาทีขึ้นอยู่กับวิธีชง)
ความละเอียดของการบดเมล็ดกาแฟ บดละเอียดมาก เพื่อให้น้ำร้อนผ่านได้ภายในเวลาสั้น ๆ บดหยาบหรือปานกลาง ขึ้นอยู่กับอุปกรณ์และวิธีการชง
รสชาติและความเข้มข้น เข้มข้น มีกลิ่นหอมแรง และเนื้อสัมผัสหนาแน่น รสชาติจะอ่อนกว่า และมีความใสของน้ำกาแฟมากกว่า
ปริมาณกาแฟต่อหนึ่งแก้ว น้อย (ประมาณ 30 มิลลิลิตรต่อช็อต) มากกว่า (150–250 มิลลิลิตรต่อแก้ว)


การชงกาแฟเอสเพรสโซ่


ต่างจากความเชื่อทั่วไป เอสเพรสโซ่ (Espresso) ไม่ใช่ชื่อของเมล็ดกาแฟหรือวิธีการคั่ว แต่คือวิธีการชงกาแฟแบบใช้แรงดัน ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของกาแฟชนิดนี้


ในการชงเอสเพรสโซ่หนึ่งช็อต เครื่องชงจะอัดน้ำร้อนที่มีแรงดันสูงผ่านผงกาแฟคั่วบดละเอียดอย่างรวดเร็ว แรงดันนี้จะช่วยย่นระยะเวลาในการสกัดกาแฟ (เมื่อเทียบกับการชงแบบเฟรนช์เพรสหรือดริป) และทำให้ได้กาแฟที่เข้มข้น มีกลิ่นหอมโดดเด่น พร้อมครีม่าสีทองที่ลอยอยู่ด้านบน ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเอสเพรสโซ่คุณภาพดี


ผลลัพธ์คือกาแฟช็อตเล็ก ๆ ที่เปี่ยมด้วยรสชาติ กลิ่น และบอดี้อันลึกซึ้ง เป็นหัวใจของกาแฟทุกแก้วที่เราคุ้นเคย ไม่ว่าจะเป็นลาเต้ คาปูชิโน หรืออเมริกาโน



กาแฟเอสเพรสโซ่มีแบบไหนบ้าง


1. เอสเพรสโซ่ดับเบิลช็อต (Espresso Double Shot)



Espresso Double Shot

เอสเพรสโซ่ดับเบิลช็อต (Espresso Double Shot) เป็นกาแฟเอสเพรสโซ่ที่มีความเข้มข้นมากกว่าแบบปกติสองเท่า เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรสชาติกาแฟเข้มลึก กลมกล่อม และมีคาเฟอีนสูงกว่าแบบช็อตเดียว นิยมดื่มแบบเพียว หรือใช้เป็นเบสของเมนูกาแฟนม เช่น ลาเต้ หรือคาปูชิโน



วิธีชง


  • 1. บดกาแฟให้ละเอียด ใช้ปริมาณ 18–20 กรัม
  • 2. กดบีบกาแฟบดในพอร์ตตาฟิลเตอร์ให้แน่น
  • 3. ใส่พอร์ตตาฟิลเตอร์เข้าเครื่องชงเอสเพรสโซ่
  • 4. สกัดกาแฟด้วยแรงดัน 8–10 บาร์ เป็นเวลา 25–30 วินาที
  • 5. จะได้กาแฟปริมาณ 60 มิลลิลิตร (2 ช็อต)
  • 6. เสิร์ฟทันทีในถ้วยขนาด 60–90 มิลลิลิตร

เคล็ดลับ: หากต้องการรสชาติที่นุ่มนวลขึ้น ควรเลือกใช้เมล็ดกาแฟคั่วระดับกลาง และปรับอุณหภูมิน้ำให้อยู่ระหว่าง 90–93°C จะช่วยให้รสชาติบาลานซ์ขึ้นโดยไม่ขมเกินไป


2. เอสเพรสโซ่ริสเทรตโต (Espresso Ristretto)




Espresso Ristretto

เอสเพรสโซ่ริสเทรตโต (Espresso Ristretto) คือกาแฟที่มีขนาดครึ่งหนึ่งของเอสเพรสโซ่ช็อตทั่วไป แต่กลับให้รสชาติที่เข้มข้น หนักแน่น และมีบอดี้มากกว่า เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบรสกาแฟแบบเข้มลึก หอมละมุน และมีความหวานจากการสกัดที่สั้นลง


วิธีชง


  • 1. บดกาแฟให้ละเอียดกว่าปกติเล็กน้อย ใช้ปริมาณ 18–20 กรัม
  • 2. กดบีบกาแฟบดในพอร์ตตาฟิลเตอร์ให้แน่นมาก เพื่อให้แรงดันน้ำผ่านช้าลง
  • 3. ใส่พอร์ตตาฟิลเตอร์เข้าเครื่องชงเอสเพรสโซ่
  • 4. สกัดกาแฟด้วยแรงดัน 8–10 บาร์ เป็นเวลา 15–20 วินาที (สั้นกว่าเอสเพรสโซ่ทั่วไป)
  • 5. จะได้กาแฟปริมาณประมาณ 15–20 มิลลิลิตร (ครึ่งช็อต)
  • 6. เสิร์ฟทันทีในถ้วยขนาดเล็ก เพื่อคงกลิ่นและรสเข้มข้น

ริสเทรตโตเป็นช็อตที่เน้นความเข้มข้นแบบ “ไม่ขม” (เข้มแต่ไม่ขม) ให้รสหวานตามธรรมชาติของกาแฟออกมาเด่นชัด เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบดื่มกาแฟรสเข้มแต่ไม่ต้องการคาเฟอีนสูงเท่าดับเบิลช็อต


3. เอสเพรสโซ่ ลุงโก (Espresso Lungo)



Espresso Lungo

เอสเพรสโซ่ลุงโก (Espresso Lungo) เป็นกาแฟที่ใช้ปริมาณผงกาแฟเท่ากับเอสเพรสโซ่ทั่วไป แต่ใช้น้ำมากกว่าสองเท่า ส่งผลให้รสชาติของกาแฟที่ได้อ่อนลงกว่าปกติเล็กน้อย มีความขมเพิ่มขึ้นเล็กน้อย และให้กลิ่นหอมที่ซับซ้อน เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบกาแฟที่ไม่เข้มข้นเกินไป แต่ยังคงสัมผัสถึงความเป็นเอสเพรสโซ่อยู่


วิธีชง


  • 1. บดกาแฟให้หยาบกว่าปกติเล็กน้อย ใช้ปริมาณ 18–20 กรัม
  • 2. กดบีบกาแฟบดในพอร์ตตาฟิลเตอร์ให้แน่นปานกลาง
  • 3. ใส่พอร์ตตาฟิลเตอร์เข้าเครื่องชงเอสเพรสโซ่
  • 4. สกัดกาแฟด้วยแรงดัน 8–10 บาร์ เป็นเวลา 35–45 วินาที (นานกว่าเอสเพรสโซ่ทั่วไป)
  • 5. จะได้กาแฟปริมาณประมาณ 50–60 มิลลิลิตร (ช็อตยาว)
  • 6. เสิร์ฟทันทีในถ้วยขนาดใหญ่ รสชาติจะอ่อนลงแต่มีความขมเพิ่มขึ้น

ลุงโกเป็นเมนูที่เหมาะสำหรับการดื่มในช่วงเช้าหรือบ่าย เนื่องจากมีคาเฟอีนมากกว่าเอสเพรสโซ่ทั่วไปเล็กน้อย และมีรสสัมผัสที่ละมุนกว่า เหมาะกับการจิบช้า ๆ เพื่อดื่มด่ำกับกลิ่นและรสของกาแฟอย่างแท้จริง


วิธีดื่มกาแฟเอสเพรสโซ่ ให้ได้อรรถรสแบบชาวอิตาเลียน



วิธีดื่มกาแฟเอสเพรสโซ่ ให้ได้อรรถรสแบบชาวอิตาเลียน

  1. ดื่มกาแฟเอสเพรสโซ่ขณะกาแฟกำลังร้อนหรืออุ่นอยู่

    โดยปกติเอสเพรสโซ่จะเสิร์ฟในแก้วขนาดเล็กที่เรียกว่า Demitasse ซึ่งออกแบบมาเพื่อเก็บอุณหภูมิของกาแฟไว้ได้ดีที่สุด การดื่มในขณะที่กาแฟยังอุ่นจะช่วยให้คุณสัมผัสได้ถึงรสชาติและกลิ่นหอมของกาแฟอย่างเต็มที่

  2. จิบน้ำเปล่าก่อนดื่มเอสเพรสโซ่

    ในร้านกาแฟแบบอิตาเลียนแท้ ๆ บาริสต้ามักจะเสิร์ฟน้ำเปล่าหรือ Sparkling water มาพร้อมกับเอสเพรสโซ่ เพื่อใช้ล้างรสชาติของอาหารหรือเครื่องดื่มก่อนหน้า เป็นการเตรียมเพดานปากให้พร้อมรับรสเข้มข้นของเอสเพรสโซ่ได้อย่างเต็มอรรถรส

  3. คนกาแฟเอสเพรสโซ่ให้เข้ากัน

    ก่อนดื่มควรใช้ช้อนคนกาแฟเบา ๆ เพื่อผสมชั้นครีม่า (Crema) ด้านบนเข้ากับตัวกาแฟด้านล่าง ทำให้รสชาติสมดุลและเข้มข้นพอดี หากต้องการสามารถตักครีม่าออกก่อนดื่มได้ตามความชอบ

  4. จิบและดื่มด่ำกับรสชาติของเอสเพรสโซ่

    ค่อย ๆ จิบกาแฟเอสเพรสโซ่ทีละน้อย เพื่อสัมผัสรสชาติและกลิ่นหอมเฉพาะตัวของเมล็ดกาแฟ รสสัมผัสที่แท้จริงของเอสเพรสโซ่จะเผยออกมาเมื่อคุณจิบอย่างช้า ๆ และตั้งใจลิ้มรส ทำให้ได้อรรถรสแบบชาวอิตาเลียนแท้ ๆ

เคล็ดลับเพิ่มเติม: ชาวอิตาเลียนนิยมดื่มเอสเพรสโซ่ในตอนเช้าเพื่อปลุกพลัง และมักดื่มแบบเพียวโดยไม่เติมน้ำตาล เพื่อชื่นชมรสชาติแท้จริงของกาแฟ



กาแฟที่ใช่สำหรับการชงเอสเพรสโซ่


ปัจจัยสำคัญที่สุดในการชงเอสเพรสโซ่ (Espresso) ที่ยอดเยี่ยมคือคุณภาพของกาแฟ เนสเพรสโซ่คัดสรรเมล็ดกาแฟอย่างพิถีพิถันจากเกษตรกรมากกว่า 100,000 คน ในภูมิภาคปลูกกาแฟชั้นเยี่ยมทั่วโลก เพื่อให้มั่นใจว่าทุกแคปซูลมีกลิ่นหอมและรสชาติที่ดีที่สุด


กระบวนการผลิตแคปซูลของเนสเพรสโซ่ได้รับการออกแบบมาเพื่อ คงความสดและรสชาติของกาแฟ ไว้อย่างเต็มที่ คุณจึงสามารถเลือกดื่มด่ำกับกาแฟจากแหล่งปลูกกาแฟระดับโลกได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น:


  • Ispirazione Roma กาแฟจากอเมริกาใต้และอเมริกากลาง ให้รสชาติกลมกล่อม เต็มรสชาติ
  • Volluto กาแฟที่หอมหวาน นุ่มนวล เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบรสละมุน
  • Ispirazione Firenze Arpeggio กาแฟเข้มข้น ดุดัน มีกลิ่นหอมของโกโก้และการคั่วที่ลึก

ไม่ว่าคุณจะชอบกาแฟรสเข้มแบบอิตาเลียนแท้ หรือรสนุ่มละมุนที่ดื่มง่าย เนสเพรสโซ่ก็มีแคปซูลให้เลือกตรงกับรสนิยมของคุณเสมอ


เอสเพรสโซ่เย็นแบบไทย ๆ คืออะไร




เอสเพรสโซ่เย็นแบบไทย ๆ คืออะไร

เอสเพรสโซ่เย็น หรือที่คนไทยเรียกว่า “เอสเย็น (Es Yen)” คือเมนูกาแฟซิกเนเจอร์ของไทยที่ไม่พบในเมนูกาแฟสากล เกิดจากการปรับสูตรเอสเพรสโซ่ให้เข้ากับอากาศร้อนของประเทศไทย โดยใช้เอสเพรสโซ่ 2 ช็อต ผสมกับนมสด นมข้นหวาน นมจืด และน้ำแข็ง


ผลลัพธ์คือกาแฟที่มี รสชาติเข้มข้นจากเอสเพรสโซ่ ผสมกับความ หวานมันและกลมกล่อมจากนม กลายเป็นเครื่องดื่มที่ทั้งสดชื่นและอร่อยลงตัว จนได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทั่วประเทศ


ปัจจุบัน “เอสเย็น” ได้รับการยอมรับในระดับสากล มีการจัด การแข่งขัน World Es Yenn Championship เพื่อเฉลิมฉลองวัฒนธรรมกาแฟของไทยอีกด้วย และแทบทุกคาเฟ่ในประเทศไทยต่างมีเมนูนี้ให้บริการ


เนสเพรสโซ่ มีแคปซูลกาแฟหลากหลายรูปแบบให้เลือก ไม่ว่าจะเป็นกาแฟเข้มข้นหรือรสหวานละมุน คุณจึงสามารถสร้างสรรค์เมนูเอสเพรสโซ่เย็นในแบบของคุณได้ง่าย ๆ ที่บ้าน


ระบบ Nespresso VERTUO


เครื่องทำกาแฟ Nespresso VERTUO รุ่น VERTUO Next และ VERTUO POP ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการของคอกาแฟที่รักความสะดวกและคุณภาพในแก้วเดียว ด้วยระบบการชงแบบเฉพาะของ VERTUO ที่ใช้เทคโนโลยีการหมุนแคปซูลความเร็วสูง (Centrifusion™) ทำให้สามารถสกัดรสชาติกาแฟได้อย่างสมบูรณ์แบบ ทั้งกลิ่นหอมเข้มและเครม่าที่หนานุ่ม


ระบบ VERTUO สามารถชงกาแฟเอสเพรสโซ่ได้มากถึง 5 รูปแบบ ได้แก่:


  • Espresso (40 ml) – กาแฟเข้มข้นสไตล์อิตาเลียน
  • Double Espresso (80 ml) – เอสเพรสโซ่ดับเบิลสำหรับผู้ที่ชอบรสเข้ม
  • Gran Lungo (150 ml) – กาแฟรสละมุนสำหรับจิบยาว ๆ
  • Mug (230 ml) – กาแฟร้อนในปริมาณพอดีสำหรับแก้วเช้า
  • Alto (414 ml) – กาแฟถ้วยใหญ่สำหรับคอกาแฟที่ต้องการความคุ้มค่าในหนึ่งแก้ว


ศึกษาคู่มือการเลือกเครื่องชงกาแฟแคปซูลอัตโนมัติเพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเครื่อง Vertuo Pop และ Vertuo Next เพื่อค้นหาเครื่องที่เหมาะกับสไตล์การดื่มกาแฟของคุณ


วิธีชงกาแฟเอสเพรสโซ่เองที่บ้าน


เมื่อคุณมีเครื่องทำกาแฟ Nespresso และแคปซูลพร้อมแล้ว การชงเอสเพรสโซ่ด้วยเครื่องเนสเพรสโซ่ก็ง่ายดายมาก ไม่ต้องมีทักษะบาริสตา ก็สามารถดื่มด่ำกาแฟระดับมืออาชีพได้ที่บ้าน


ขั้นตอนการชง


  1. 1. เติมน้ำสะอาดลงในแท็งก์ของเครื่องทำกาแฟ
  2. 2. ใส่แคปซูลกาแฟลงในช่องแคปซูลของเครื่อง Nespresso
  3. 3. วางแก้วลงบนถาดรองกาแฟ
  4. 4. กดปุ่ม Espresso สำหรับเครื่องรุ่น Original หรือกดปุ่มสกัดกาแฟบนเครื่องรุ่น VERTUO


เพียงไม่กี่วินาที เครื่องก็จะสกัดกาแฟเอสเพรสโซ่แก้วโปรดของคุณออกมาอย่างสมบูรณ์แบบ ทั้งความเข้มข้น กลิ่นหอม และครีม่านุ่มฟู พร้อมให้คุณดื่มด่ำรสชาติของกาแฟคุณภาพได้ง่าย ๆ ที่บ้านทุกวัน


เมื่อคุณได้ทราบข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับที่มาของกาแฟเอสเพรสโซ่ว่ามีรสชาติอย่างไร และจะชงเอสเพรสโซ่ที่บ้านได้อย่างไร สิ่งเดียวที่เหลืออยู่คือ เริ่มชงเอสเพรสโซ่แก้วแรกของคุณได้เลย!


พร้อมเปิดประสบการณ์กาแฟเอสเพรสโซ่ระดับโลกแล้วหรือยัง? ไม่ว่าคุณจะหลงใหลในช็อตเข้มข้นแบบคลาสสิก ริสเทรตโตที่หนักแน่น หรือ ลุงโกที่นุ่มนวล Nespresso มีกาแฟคุณภาพพรีเมียมให้เลือกสรรจากเกษตรกรมากกว่า 100,000 คนทั่วโลก ทุกเมล็ดได้รับการคัดสรรและคั่วอย่างพิถีพิถันเพื่อคงรสชาติอันโดดเด่นของกาแฟในแต่ละแหล่งปลูก


ด้วยเครื่องชง VERTUO และแคปซูลที่ออกแบบเฉพาะสำหรับการสกัดเอสเพรสโซ่อย่างสมบูรณ์แบบ คุณจะได้ลิ้มรสกาแฟที่มี ครีม่าเนียนละเอียด กลิ่นหอมเข้ม และรสชาติกาแฟที่กลมกล่อมทุกครั้ง


ค้นพบความหลากหลายของกาแฟระดับบาริสต้าจากทั่วโลก และสั่งซื้อออนไลน์ได้ง่าย ๆ ที่ www.nespresso.com เพื่อเริ่มต้นการเดินทางสู่โลกแห่งเอสเพรสโซ่ที่แท้จริง ประสบการณ์กาแฟสุดพิเศษรอคุณอยู่




คำถามที่พบบ่อย

เครื่องชงเอสเพรสโซ่ในบ้านควรทำความสะอาดบ่อยแค่ไหน และมีวิธีการอย่างไร?
ควรทำความสะอาดเครื่องชงเอสเพรสโซ่หลังใช้งานทุกครั้ง โดยล้างพอร์ตตาฟิลเตอร์และกรองน้ำให้สะอาด ส่วนการทำความสะอาดลึกด้วยการ descaling ควรทำทุก 1–3 เดือน ขึ้นอยู่กับความกะด้างของน้ำในพื้นที่ การดูแลรักษาที่ดีจะช่วยยืดอายุการใช้งานและรักษาคุณภาพรสชาติของกาแฟ
ทำไมเครมาบนเอสเพรสโซ่บางครั้งถึงไม่เกิดขึ้น หรือมีสีไม่สวย?
เครมาที่ไม่ดีอาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น เมล็ดกาแฟไม่สด (เก่ากว่า 2–4 สัปดาห์หลังคั่ว), การบดกาแฟไม่เหมาะสม (หยาบหรือละเอียดเกินไป), แรงดันเครื่องไม่เพียงพอ หรือการกดกาแฟไม่แน่นพอ การปรับปัจจัยเหล่านี้จะช่วยให้ได้เครมาที่สวยงามและคงทน
การเลือกแก้วสำหรับดื่มเอสเพรสโซ่มีความสำคัญอย่างไร และควรเลือกแบบไหน?
แก้วที่เหมาะสมจะช่วยรักษาอุณหภูมิและเพิ่มประสบการณ์การดื่ม แก้วเอสเพรสโซ่แบบดั้งเดิม (Demitasse) ขนาด 60–90 มล. ทำจากกระเบื้องหนาจะช่วยรักษาความร้อนได้ดี รูปทรงที่ปากกว้างช่วยให้กลิ่นหอมกระจายตัวดีขึ้น ส่วนแก้วใสจะให้ประสบการณ์ทางสายตาที่สวยงามแต่เก็บความร้อนได้น้อยกว่า
เอสเปรสโซ่สไตล์ไทยต่างจากแบบสากลอย่างไร?
เอสเปรสโซ่สากลเป็นกาแฟดำร้อนเข้มข้นไม่ผสมน้ำหรือนม แต่สไตล์ไทยมีทั้งแบบร้อนและเย็น โดยเฉพาะเอสเปรสโซ่เย็นที่ผสมนมสด นมข้นหวาน และนมข้นจืด ทำให้ได้รสหวานมันกลมกล่อม เหมาะกับสภาพอากาศร้อนของไทย
เอสเปรสโซ่ต่างจากกาแฟดำและมอคค่าอย่างไร?
เอสเปรสโซ่คือหัวกาแฟเข้มข้นที่สกัดด้วยแรงดันสูง ส่วนกาแฟดำคือเอสเปรสโซ่ที่เติมน้ำเพิ่ม (อัตราส่วน 1:2) ทำให้รสชาตินุ่มและดื่มง่ายกว่า ส่วนมอคค่ามีการเติมนมและช็อกโกแลต ทำให้หวาน กลมกล่อม และเหมาะกับผู้ที่ไม่ชอบกาแฟเข้มจัด