สูตร Dirty Coffee และวิธีทำ Dirty Coffee ง่ายๆ ให้กลมกล่อม

ถ้าใครยังไม่รู้จัก Dirty Coffee ขอบอกเลยว่านี่ คือ เมนูกาแฟสไตล์ใหม่ที่ไม่ได้มีดีแค่หน้าตา วันนี้ Nespresso จะพาไปเจาะลึกว่า กาแฟ Dirty คืออะไร มีที่มาจากไหน ทำกินเองยังไงให้ได้เลเยอร์สวย ๆ และควรดื่มยังไงถึงจะได้ประสบการณ์กาแฟ Dirtyที่ถูกต้อง พร้อมเทคนิค และเคล็ดลับสำหรับคนที่อยากลองทำ Dirty Coffeeง่าๆ ที่บ้าน
Highlight
- กาแฟ dirty คืออะไร?
- Dirty Coffee มีต้นกำเนิดมาจากไหน?
- ทำไมถึงเรียกว่า "Dirty"?
- กาแฟ Dirty ทำจากอะไรบ้าง?
- กาแฟ Dirty ต่างจากกาแฟเมนูอื่นอย่างไร?
- ตารางเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างกาแฟ Dirty และกาแฟอื่นๆ
- ควรดื่มกาแฟ Dirty อย่างไร?
- กาแฟ Dirty มีรสชาติเป็นอย่างไร?
- ทำกาแฟ Dirty ที่บ้านได้ไหม?
- กาแฟ Dirty มีคาเฟอีนและแคลอรี่เท่าไหร่?
กาแฟ dirty คืออะไร?
กาแฟ Dirty คือ เครื่องดื่มกาแฟที่มีการแยกชั้นระหว่างนมสดเย็นจัดที่อยู่ด้านล่างของแก้วกับช็อตเอสเพรสโซ่ร้อนที่ราดอยู่ด้านบน ทำให้เกิดลวดลายคล้ายคราบเปื้อนบนผิวนม จึงเป็นที่มาของชื่อ "Dirty" ที่หมายถึงความเปรอะเปื้อน
Dirty Coffee มีต้นกำเนิดมาจากไหน?
Dirty Coffee มีต้นกำเนิดจากร้าน Bear Pond Espresso กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น โดยเจ้าของร้าน และบาริสต้าได้คิดค้นเมนูนี้ขึ้น ซึ่งสร้างชื่อเสียงให้กับร้าน และได้รับความนิยมเป็นกระแสมากขึ้นเมื่อนำไปเผยแพร่ในร้าน Joe The Art of Coffee ที่นิวยอร์ก จนกลายเป็นเมนูโปรดในวงการกาแฟญี่ปุ่น และคาเฟ่ทั่วโลก
ทำไมถึงเรียกว่า "Dirty"?
คำว่า "Dirty" ถูกใช้เรียกเมนู Dirty Coffee เพราะเมื่อเทเอสเปรสโซร้อนลงบนนมสดเย็นจัด จะเกิดลวดลายและคราบกาแฟดูเหมือนเปรอะเปื้อนอยู่บนผิวนมในแก้วใส ซึ่งสื่อถึงความไม่ปรุงแต่ง ความไม่สมบูรณ์แบบ แต่กลับมีเสน่ห์เฉพาะตัวจนกลายเป็นเอกลักษณ์ของเครื่องดื่มนี้
กาแฟ Dirty ทำจากอะไรบ้าง?
- ส่วนผสมหลัก: กาแฟ Dirty ใช้ส่วนผสมหลักเพียงสองอย่าง คือเอสเปรสโซช็อตที่สกัดร้อน และนมสดที่แช่เย็นจัด
- สัดส่วนมาตรฐาน: สัดส่วนมาตรฐานมักใช้เอสเปรสโซ่ 1 ช็อต (ประมาณ 30 มิลลิลิตร) กับนมสดเย็น 100-120 มิลลิลิตร (ประมาณ 4 ออนซ์) โดยรินเอสเปรสโซช็อตลงบนนมเย็นทันที เพื่อให้เกิดการแยกชั้นสวยงาม
- ชนิดของนมที่เหมาะสม: นิยมใช้นมสดเต็มมันเนย (Whole Milk) เพราะให้เท็กซ์เจอร์เนียนนุ่ม รสชาติกลมกล่อม และช่วยสร้างเลเยอร์เด่นชัดในแก้ว
- คุณภาพเมล็ดกาแฟที่ควรใช้: ควรเลือกใช้เมล็ดกาแฟสายพันธุ์อาราบิก้าหรือเบลนด์ที่ความเข้มข้นเพื่อให้ได้รสชาติที่หอมเข้ม ลงตัวกับนมเย็น
กาแฟ Dirty ต่างจากกาแฟเมนูอื่นอย่างไร?
Dirty vs Latte

Dirty Coffee ต่างจากลาเต้ตรงที่ใช้เอสเปรสโซร้อนราดลงบน "นมสดเย็นจัด" โดยไม่ผสมหรือสตีมรวมกันเหมือนลาเต้ที่ใช้นมร้อนผสมกับกาแฟแล้วคนให้เนียนเป็นเนื้อเดียว รสชาติของ Dirty Coffee จะเข้มข้นกว่า และให้สัมผัสเลเยอร์ที่แตกต่างในแต่ละชั้น ทั้งร้อน และเย็นในจิบเดียว ส่วนลาเต้จะนุ่มละมุน และกลมกล่อมทั่วทั้งแก้ว
Dirty vs Macchiato

Macchiato คือ เอสเปรสโซที่เติมนมหรือฟองนมในปริมาณน้อย นิยมเสิร์ฟร้อน และเน้นรสกาแฟเด่น มีสัดส่วนนมต่ำ แต่ Dirty Coffee แม้จะคล้ายลาเต้แมคเคียโต้ในลักษณะการราดกาแฟ ลงบนเลเยอร์นม แต่ใช้นมเย็น และปริมาณมากกว่า ดื่มแล้วสัมผัสถึงการผสานกันระหว่างกาแฟเข้มกับนมเย็น ไม่หนักหรือเข้มข้นถึงขั้น macchiato
Dirty vs Flat White

Flat White ใช้นมร้อนหรือฟองนม ทำให้ได้รสชาติกาแฟอ่อนกว่าลาเต้ หรือ Dirty Coffee โดย Flat White เป็นเมนูร้อนที่นมผสมกับกาแฟอย่างกลมกล่อม ให้สัมผัสเนียนนุ่ม ส่วน Dirty Coffee เน้นเลเยอร์เย็น และร้อน ตัดกันในแก้วเดียว
จุดเด่นของ Dirty coffee

Dirty Coffee เด่นที่สุดตรงการแยกชั้นระหว่างนมเย็นจัด และเอสเปรสโซร้อน เสิร์ฟในแก้วใสให้เห็นสีตัดกันอย่างชัดเจน โดยรสชาติเปลี่ยนไปในแต่ละคำตั้งแต่ความเข้มข้นของกาแฟ สู่ความหวานมันของนมเย็น โดยอุณหภูมิที่แตกต่างในแก้วเดียวสร้างประสบการณ์ดื่มแบบร้อน-เย็นพร้อมกัน แตกต่างจากเมนูอื่นที่รสชาติ และอุณหภูมิสมดุลกันตลอด
ตารางเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างกาแฟ Dirty และกาแฟอื่นๆ
| ประเภท | Dirty Coffee | Latte | Macchiato | Flat White |
|---|---|---|---|---|
| การผสมนมกับกาแฟ | เอสเปรสโซร้อนราดบน นมเย็นจัด (ไม่ผสมกัน) | ผสมนมร้อนกับเอสเปรสโซจนเนียนเป็นเนื้อเดียว | เอสเปรสโซเติมนมหรือฟองนมน้อยมาก | ผสมนมร้อน/ฟองนมให้เนียนละเอียด |
| อุณหภูมิในแก้ว | ร้อน + เย็นในแก้วเดียวแบบแยกชั้น | ร้อนทั้งแก้ว | ร้อนทั้งแก้ว | ร้อนทั้งแก้ว |
| เลเยอร์ของเครื่องดื่ม | แยกชั้นชัดเจน (กาแฟเข้มบน นมเย็นล่าง) | เนียนเป็นชั้นเดียว | ส่วนใหญ่ไม่แยกชั้น | เนียนเป็นเนื้อเดียว |
| รสชาติเด่น | เข้ม หอม มัน มีมิติหลายคำเพราะแยกชั้น | นุ่ม ละมุน กลมกล่อม | เข้มกาแฟชัด นมน้อย | นุ่มเนียน กลมกล่อมกว่า Latte เล็กน้อย |
| ปริมาณนม | มาก (นมเย็น) | มาก | น้อย | ปานกลางถึงมาก |
| ความเข้มของกาแฟ | เข้ม แต่บาลานซ์ด้วยนมเย็น | อ่อน-กลาง | เข้ม | อ่อนกว่า Dirty / Latte |
| รูปแบบการเสิร์ฟ | แก้วใส ให้เห็นเลเยอร์ชัดเจน | แก้วร้อนทั่วไป | แก้วช็อตเล็ก/แก้วร้อน | แก้วร้อนทั่วไป |
| จุดเด่นเฉพาะตัว | สัมผัสร้อน-เย็นพร้อมกัน / รสชาติไม่เหมือนทุกคำ | ละมุนดื่มง่าย | รสกาแฟโดดเด่น | เนื้อสัมผัสเนียนและบาลานซ์ |
ทำกาแฟ Dirty อย่างไรให้ถูกต้อง?
การทำกาแฟ Dirty ต้องมีเครื่องชงเอสเปรสโซ แก้วใสขนาดประมาณ 4-5 ออนซ์ และถ้าเป็นสูตรเพิ่มความมัน อาจใช้นมสดผสมวิปครีม พร้อมกับไซรัปรสชาติที่ชอบ โดยสามารถทำตามขั้นตอนต่อไปนี้
- 1. เทนมสดเย็นหรือผสมนมสดกับวิปครีมลงในแก้วใส ผ่านการแช่ช่องแข็งอย่างน้อย 10-15 นาทีให้เย็นจัด
- 2. สกัดเอสเปรสโซ่ช็อตเข้มข้น 1-2 ช็อต (ประมาณ 30 มล.) โดยเครื่องชงกาแฟ Nespresso ที่ใช้งานง่าย เพียงกดปุ่มเดียวก็ได้เอสเพรสโซช็อตหอมกรุ่น
- 3. ค่อย ๆ เทกาแฟร้อนลงบนชั้นนมเย็นผ่านช้อน เพื่อเลี่ยงการผสมเร็วเกินไป และให้เกิดเลเยอร์สวยงาม
- 4. เสิร์ฟทันทีแบบไม่ต้องคนหรือปล่อยให้อุณหภูมิทั้งสองชั้นเท่ากัน
เทคนิคการเทนมให้ได้เลเยอร์สวย: แช่นม และแก้วให้เย็นจัดที่สุดก่อนริน เพื่อให้เลเยอร์แยกชั้นชัดเจน จากนั้น เทเอสเปรสโซผ่านช้อนอย่างช้า ๆ และเบา ๆ สัมผัสผิวนมเพียงเล็กน้อย จะช่วยให้กาแฟไม่ละลายลงไปในนม และที่สำคัญ ใช้นมสดเต็มมันเนยหรือผสมวิปครีม เพื่อให้เนื้อนมหนาแน่น และคงรูปเลเยอร์ได้ดี
นอกจากนี้ ต้องระวังข้อผิดพลาด เช่น
- - นมไม่เย็นจัดพอ เลเยอร์จะผสมกันเร็ว และเสียเอกลักษณ์ Dirty Coffee
- - เทกาแฟแรงหรือเร็วเกินไป เลเยอร์จะคลาย และไม่สวย
- - สกัดกาแฟด้วยอุณหภูมิสูงมากหรือบดหยาบเกิน จะทำให้รสชาติผิดเพี้ยน น้ำมันไม่ขึ้น
ควรดื่มกาแฟ Dirty อย่างไร?
วิธีดื่มที่ถูกต้อง ควรคนหรือไม่คน?: จริง ๆ แล้วเราควรดื่ม Dirty Coffee แบบที่บาริสต้าเสิร์ฟมา โดยไม่ต้องคนหรือเปลี่ยนแปลงส่วนผสมใด ๆ ยกแก้วขึ้นจิบทีละเลเยอร์ เพื่อสัมผัสถึงรสชาติกาแฟเข้มข้นด้านบน และความนุ่มละมุนของนมเย็นที่อยู่ด้านล่างในคำเดียว เพราะการคนจะทำให้เลเยอร์หายไป และเสียความกลมกล่อมที่ไล่ระดับตามลำดับการจิบ ซึ่งเป็นเสน่ห์ของกาแฟ Dirty
ลำดับการชิมรสชาติ: จิบแรกจะได้รสเข้มของเอสเปรสโซร้อน จากนั้น นมเย็นจะค่อย ๆ ผสมขึ้นมา ทำให้สัมผัสถึงการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ และรสชาติในแต่ละจิบ ความกลมกล่อมจะเพิ่มขึ้นเมื่อกาแฟผสมกับนมเย็นมากขึ้นในจิบต่อ ๆ ไป
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการดื่ม: Dirty Coffee เหมาะกับการดื่มในช่วงเช้า หลังอาหารกลางวัน หรือเวลาต้องการความสดชื่น และตื่นตัวเป็นพิเศษ ด้วยความเข้มข้น และกลิ่นหอมของกาแฟที่ตัดกับนมเย็น ทำให้ได้ทั้งความสดชื่น และความนุ่มละมุนในเวลาเดียวกัน
กาแฟ Dirty มีรสชาติเป็นอย่างไร?

กาแฟ Dirty มีรสชาติที่โดดเด่นจากความเข้มข้นของเอสเปรสโซร้อนที่ราดอยู่เหนือเลเยอร์ของนมสดเย็นจัด ส่งผลให้จิบแรก คุณจะสัมผัสได้ถึงความเข้ม และกลิ่นหอมของกาแฟอย่างเต็มที่ จากนั้น ความนุ่มละมุนของนมเย็นจะค่อย ๆ ผสานขึ้นมาทีละน้อย ทำให้เกิดความสมดุลระหว่างรสขมของกาแฟ และความหวานธรรมชาติของนม ซึ่งไม่ได้หวานจัดจนกลบรสกาแฟ และในบางสูตรอาจได้รับกลิ่นหอมจาง ๆ ของคาราเมลหรือวนิลา เพิ่มสีสันให้กับ flavor profile ได้อย่างลงตัว
เมื่อดื่ม Dirty Coffee จะได้รับประสบการณ์ที่แตกต่างจากกาแฟเมนูอื่นอย่างชัดเจน ทั้งจากความแตกต่างของอุณหภูมิในแก้วเดียว ตั้งแต่ความร้อนของกาแฟไปจนถึงความเย็นสดชื่นของนม พร้อมกับการไล่ระดับรสชาติที่น่าสนใจในแต่ละจิบ
ทำกาแฟ Dirty ที่บ้านได้ไหม?
Dirty Coffee สามารถทำเองที่บ้านได้ง่าย ๆ โดยใช้เครื่องชง และ แคปซูล Nespresso ซึ่งช่วยให้ได้คุณภาพและรสชาติที่เสถียรทุกแก้วไม่ต้องลุ้นเหมือนสั่งตามร้าน อีกทั้งยังสามารถปรับสูตรให้เข้ากับความชอบส่วนตัวได้ทั้งความเข้ม และความหวานของนม โดยอุปกรณ์ที่ต้องมี ได้แก่
- 1. เครื่องชง Nespresso (รองรับแคปซูล Vertuo หรือ Original)
- 2. แคปซูลกาแฟสูตรเข้มที่เหมาะสำหรับกาแฟนม เช่น Vertuo Latte Lover Selectionหรือ Barista Creations
- 3. นมสดแช่เย็นจัด และแก้วใสขนาด 4-5 ออนซ์
และถ้าเตรียมอุปกรณ์พร้อมแล้ว สามารถทำตามวิธีทำง่าย ๆ ต่อไปนี้ได้เลย
- 1. เทนมสดเย็นจัดลงในแก้ว (สามารถแช่แก้วและนมในช่องแข็งสักพักให้เย็นขึ้น)
- 2. ใส่แคปซูลกาแฟที่เลือกลงในเครื่อง Nespresso
- 3. สกัดกาแฟร้อนลงบนนม โดยค่อย ๆ รินช้า ๆ ผ่านหลังช้อน เพื่อเกิดชั้นเลเยอร์สวย
- 4. เสิร์ฟทันทีโดยไม่ต้องคน
Tips การเลือกแคปซูล:
- 1. เลือกแคปซูลที่เด่นเรื่องกาแฟเข้ม และดื่มกับนมได้ดี
- 2. หากต้องการรสเข้ม แนะนำลุยสูตร espresso หรือ double espresso สำหรับคนชอบรสกาแฟชัด
โดยการชงกาแฟ Dirty มีราคาต้นทุนต่อแก้วเฉลี่ยที่ประมาณ 35-50 บาท ขึ้นอยู่กับชนิดแคปซูล และนมที่เลือกใช้
กาแฟ Dirty มีคาเฟอีนและแคลอรี่เท่าไหร่?
ปริมาณคาเฟอีนของกาแฟ Dirty คือ ประมาณ 60-80 มิลลิกรัมต่อแก้ว ซึ่งใกล้เคียงกับลาเต้หรือคาปูชิโน่ 1 แก้ว แต่ต่ำกว่ากาแฟดำหรืออเมริกาโน่/a>ที่มักมีคาเฟอีนมากกว่า
Dirty Coffee แบบต้นตำรับให้พลังงานราว 110-130 กิโลแคลอรี่ต่อแก้ว หากไม่เติมน้ำตาลหรือไซรัปเพิ่ม
คุณค่าทางโภชนาการหลัก ๆ คือ ให้โปรตีน และแคลเซียมจากนมสด มีน้ำตาลธรรมชาติจากนม มีคาเฟอีนจากกาแฟ ซึ่งช่วยกระตุ้นร่างกายให้ตื่นตัว กระปรี้กระเปร่าตลอดวัน
กาแฟ Dirty เหมาะกับคนรักกาแฟนม คนที่อยากดื่มกาแฟเข้มข้น แต่ไม่ขมจัดหรือคนเริ่มดื่มกาแฟ สำหรับผู้ที่แพ้นมวัว, ผู้มีโรคหัวใจ, ความดันสูง, หญิงตั้งครรภ์ หรือผู้ควบคุมคาเฟอีน และน้ำตาล ควรระวังหรือปรับสูตรให้เหมาะสมกับตัวเอง
หากอยากลิ้มลองประสบการณ์การดื่มกาแฟใหม่ ๆ คุณเองก็สามารถทำ Dirty Coffee ได้ง่าย ๆ ที่บ้าน เพียงใช้เครื่องชง Nespresso และกาแฟแคปซูลจาก Nespressos เตรียมนมเย็นจัด สกัดกาแฟร้อนแล้วเทผ่านช้อนลงบนนม ก็จะได้เมนู Dirty สไตล์คาเฟ่ที่รับประกันความอร่อยทุกแก้ว แถมปรับสูตรได้ตามชอบ ซึ่งความพิเศษของการทำ กาแฟ Dirty ที่บ้าน คือคุณสามารถเลือกโปรไฟล์รสชาติของกาแฟให้เข้ากับสไตล์ที่ชอบได้อย่างอิสระ โดย Nespresso มีแคปซูลหลากหลายประเภท ตั้งแต่รสเข้มลึกนุ่ม ไปจนถึงโทนหวานละมุน ให้คุณทดลองและค้นหาสูตรกาแฟ Dirty ที่ลงตัวที่สุดของตัวเอง หากอยากดูตัวเลือกเพิ่มเติม สามารถแวะชมได้ที่ www.nespresso.com เพื่อค้นหาแรงบันดาลใจใหม่ ๆ ในทุกแก้วที่คุณชง