Long black กับ Lungo ต่างกันอย่างไรทั้งที่เป็นกาแฟดำทั้งคู่

เมื่อพูดถึงการเพิ่มความตื่นตัวให้กับร่างกายในตอนเช้า เรามักจะนึกถึงกาแฟเสมอ ๆ ไม่ว่าจะเป็นกาแฟดำหรือกาแฟเมนูนมต่างๆ แม้แต่กระทั่งการดื่มกาแฟเพื่อสุขภาพ

ซึ่งในปัจจุบันผู้คนให้ความสนใจกับสุขภาพมากขึ้น กาแฟดำจึงเริ่มเข้ามามีบทบาทต่อผู้บริโภคอย่างเรา ๆ เป็นอย่างมาก เพราะกาแฟดำให้ปริมาณแคลอรี่ที่ต่ำ และยังช่วยกระตุ้นการเผาผลาญอีกด้วย ที่สำคัญการดื่มกาแฟดำยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพอีกมากมาย เมื่อบริโภคอย่างเหมาะสมในแต่ละวัน

ในโลกของกาแฟนั้นดำก็ยังคงมีความหลากหลายของเมนูอีกเช่นกัน ในปัจจุบันเรามักจะได้ยินเมนูกาแฟดำยอดนิยมที่สุดก็คือ Americano หรือ Espresso shot แต่รู้หรือไม่ เมนูกาแฟดำยังมีมากกว่านั้นอีก ในวันนี้เราจะพามารู้จักกาแฟดำในรูปแบบของ Long black และกาแฟ Lungo กัน

"Long black ความนุ่ม เบา แต่ยังคงไว้ด้วยอโรม่า"

Long black คือ?

Long black เป็นกาแฟดำสไตล์ออสเตรเลียที่หลาย ๆ คนหลงรัก ซึ่งมีความเชื่อกันว่ากาแฟ Long black นั้นถือกำเนิดในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยทหารอเมริกันประจำการในอิตาลีได้คิดค้นวิธีการชงกาแฟแบบใหม่โดยเทน้ำร้อนลงบนเอสเพรสโซ่ เพื่อเจือจางความเข้มข้นให้เหมาะกับรสนิยม

หลักฐานชิ้นแรกที่กล่าวถึงกาแฟ Long black ปรากฏในหนังสือพิมพ์ "The New Zealand Herald" ปี 1950 ซึ่ง Long black มีชื่อเรียกอื่น ๆ อีก เช่น "Americano Lungo" หรือ "Long Macchiato" นั่นเอง โดยรสชาติของกาแฟ Long black นั้นเข้มข้น กลมกล่อม หอมละมุน มีความบาลานซ์ระหว่างน้ำและกาแฟ

กาแฟ Long black ได้รับความนิยมอย่างมากในออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และประเทศอื่น ๆ ในยุโรป โดยวิธีการชง Long black นั้นง่ายมาก ๆ มีดังนี้

1. 1. เติมน้ำร้อนลงในแก้ว
2. 2. เทช็อตเอสเพรสโซ่ลงบนน้ำร้อน
3. 3. เครม่าจะลอยอยู่ด้านบน

สำหรับสายนักดื่มกาแฟดำท่านใดต้องการลอง Long black ที่บ้านในแบบฉบับของ Nespresso ก็สามารถทำได้เพียงใช้เครื่องสกัดกาแฟแคปซูล Nespresso ซึ่งวันนี้เรามี 1 รสชาติที่อยากจะแนะนำให้กับทุกท่านอีกด้วย

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบกาแฟ Long black ที่อยากได้สไตล์ความนุ่ม เบา แต่แฝงไปด้วยความหอมผลไม้ นั่นคือ Cosi กาแฟในกลุ่ม Espresso ที่เป็นรสชาติดั่งเดิมของเนสเพรสโซซึ่งอยู่คู่กับแบรนด์มาแล้วมากกว่า 30 ปี ความนุ่ม เบา แต่แฝงไปด้วยความหอมผลไม้ นั่นก็คือ Cosiกาแฟในกลุ่ม Espresso ที่เป็นรสชาติดั่งเดิมของเนสเพรสโซ

Cosi เป็นการผสมผสานกาแฟสายพันธ์อาราบิก้า 100 เปอร์เซ็นต์จากลาตินอเมริกาอย่างคอสตาริกาและเบลนด์เข้ากับกาแฟจากเคนย่า ที่ให้ความหอมโทนกลิ่นผลไม้และซีเรียล

แล้ว Lungo คืออะไร ?

Lungo เป็นกาแฟดำเข้มข้นสไตล์เอสเพรสโซ่ ซึ่งคำว่า Lungo มาจากภาษาอิตาลี แปลตรงตัวว่า "ยาว" เป็นกาแฟ Lungo ถือกำเนิดในอิตาลี โดยบาริสต้าทดลองชงกาแฟเอสเพรสโซ่ด้วยวิธีการสกัดนานกว่าปกติ ผลลัพธ์ที่ได้คือกาแฟที่มีปริมาณมากกว่า รสชาติเข้มข้น ขม และฝาดกว่า

เมนูกาแฟ Lungo นั้นเป็นที่นิยมในหมู่ผู้ชื่นชอบกาแฟดำเข้มข้น โดยเฉพาะในอิตาลี ฝรั่งเศส และสเปน ส่วนวิธีการชงก็ไม่ยากเช่นเดียวกันคือ การทำ Espresso Shot แต่ปล่อยให้น้ำไหลผ่าน (ลากน้ำกาแฟ) จนได้ปริมาณที่ต้องการเช่น 3-4 ออนซ์

Long black และ Lungo ต่างกันอย่างไร?

จะเห็นได้ว่าทั้งสองเมนูนั้นมีความคล้ายกันในเรื่องของรูปลักษณ์แต่ขั้นตอนในการทำนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง รวมถึงรสชาติและรสสัมผัสอีกด้วย ซึ่งสรุปง่ายๆดังนี้

1. วิธีการชง

• - Lungo Coffee: เป็นการสกัดกาแฟเอสเพรสโซ่แล้วลากช็อตกาแฟให้ยาวขึ้นในปริมาณ 3-4 ออนซ์ (ประมาณ 90 - 120 ml)
• - Long black Coffee: ใส่น้ำร้อนลงในแก้วกาแฟประมาณ 3/4 ส่วนของแก้ว หรือสัดส่วนน้ำตามที่เราชอบ และใส่เอสเพรสโซ่ช็อตตามลงไปด้านบน

2. รสชาติ

• - Lungo Coffee: กาแฟดำรสเข้มข้น ขม และติดฝาด และยังคงมี Body อยู่
• - Long black Coffee: มีรสชาติเบากว่า ขมน้อยกว่า และ Body เบากว่า

3. Crema

• - Lungo Coffee: มีชั้นเครม่าที่ค่อนข้างหนานุ่ม เพราะการสกัดเอสเพรสโซ่ที่ลากยาวและไม่มีสัดส่วนของน้ำร้อนมาผสมเพิ่มเติมลงไป
• - Long black Coffee: มีชั้นเครม่าน้อยกว่ากาแฟ Lungo

4. เหมาะกับใครบ้าง

• - Lungo Coffee: เหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบกาแฟดำน้ำเยอะที่ให้รสชาติเข้มข้น
• - Long black Coffee: เหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบกาแฟดำน้ำเยอะเช่นเดียวกัน แต่ชอบรสชาติที่นุ่มและเบากว่า ดื่มง่ายกว่า

จะเห็นได้ว่าทั้งสองเมนูนั้นมีความคล้ายกันในเรื่องของรูปลักษณ์ แต่ขั้นตอนในการทำนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง รวมถึงรสชาติและรสสัมผัสอีกด้วย ซึ่งสรุปได้ดังนี้

หัวข้อ	Lungo Coffee	Long Black Coffee
วิธีการชง	เป็นการสกัดกาแฟเอสเพรสโซ่โดย "ลากช็อต" ให้นานขึ้น ปริมาณประมาณ 3–4 ออนซ์ (90–120 ml)	เติมน้ำร้อนลงในแก้วประมาณ ¾ ของแก้ว จากนั้นค่อยเท เอสเพรสโซ่ช็อต ลงด้านบน
รสชาติ	เข้มข้น ขม และติดฝาดเล็กน้อย ยังมี Body ของกาแฟอยู่มาก	รสชาติเบากว่า ขมน้อยกว่า และ Body บางกว่า
Crema	มี ชั้นเครม่า (Crema) หนานุ่ม เพราะเกิดจากการสกัดเอสเพรสโซ่ที่ยาวขึ้นโดยไม่เติมน้ำร้อนเพิ่มเติม	มี ชั้นเครม่า น้อยกว่า เพราะการเทน้ำร้อนก่อนทำให้เครม่าบางลง
เหมาะกับใครบ้าง	เหมาะกับผู้ที่ชอบกาแฟดำรสเข้ม ขม และเข้มข้นแบบเต็มรส	เหมาะกับผู้ที่ชอบกาแฟดำรสเบา นุ่ม และดื่มง่ายกว่า

Long black ต่างจาก Americano อย่างไร

ว่าไปแล้วหลาย ๆ คนเมื่ออ่านมาถึงตรงนี้แล้วอาจจะสงสัยว่า Long black มีวิธีการทำคล้าย ๆ กับ Americano เลย หรือมันคือเมนูเดียวกันนะ?

จริง ๆ แล้วเครื่องดื่มทั้งสองเป็นเมนูกาแฟที่มีส่วนผสมของ Espresso Shot และน้ำร้อนอยู่ทั้งคู่ แต่ความแตกต่างอยู่ที่ลำดับของการใส่ส่วนผสม เมนู Americano จะสกัด Espresso Shot ออกมาก่อน จากนั้นตามด้วยน้ำร้อนลงไป

1. วิธีการชง

• - Americano: สกัดช็อตกาแฟใส่แก้วก่อน จากนั้นตามด้วยน้ำร้อนลงไป (ประมาณ 3-4 Oz. หรือ 90-120 ml)
• - Long black Coffee: ใส่น้ำร้อนลงในแก้วกาแฟประมาณ 3/4 ส่วนของแก้ว หรือสัดส่วนน้ำตามที่เราชอบ และใส่เอสเพรสโซ่ช็อตตามลงไปด้านบน

2. รสชาติ

• - Americano: เป็นกาแฟดำที่มีรสชาติกลางๆ หอมกาแฟ มีความเข้มข้นปานกลาง ดื่มง่าย
• - Long black Coffee: มีรสชาติเบากว่า ขมน้อยกว่า และ Body เบากว่า

3. Crema

• - Americano: มีปริมาณครีม่าน้อย เพราะเกิดการเจือจางเมื่อเติมน้ำร้อนลงไปบนช็อตกาแฟ
• - Long black Coffee: มีชั้นเครม่าน้อยกว่ากาแฟ Lungo

4. เหมาะกับใครบ้าง

• - Americano: เหมาะกับผู้ที่ชอบกาแฟดำแต่ไม่ต้องการความเข้มข้นมากเกินไป เป็นเมนูยอดนิยมสำหรับผู้ที่เริ่มดื่มกาแฟดำ
• - Long black Coffee: เหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบกาแฟดำน้ำเยอะเช่นเดียวกัน แต่ชอบรสชาติที่นุ่มและเบากว่า ดื่มง่ายกว่า

จริง ๆ แล้วเครื่องดื่มทั้งสองเป็นเมนูกาแฟที่มีส่วนผสมของ Espresso Shot และ น้ำร้อน เหมือนกัน แต่ ความแตกต่างอยู่ที่ลำดับของการใส่ส่วนผสม

หัวข้อ	Americano	Long Black Coffee
วิธีการชง	สกัด เอสเพรสโซ่ช็อตใส่แก้วก่อน จากนั้นเติม น้ำร้อนตามลงไป (ประมาณ 3–4 ออนซ์ หรือ 90–120 ml)	เท น้ำร้อนลงในแก้วก่อน ประมาณ ¾ ของแก้ว แล้วจึงเติม เอสเพรสโซ่ช็อตลงด้านบน
รสชาติ	กาแฟดำรสชาติกลาง ๆ หอมกลิ่นกาแฟ เข้มปานกลาง ดื่มง่าย	รสชาติจะเข้มกว่าเล็กน้อยเพราะชั้น Crema ยังคงอยู่มากกว่า ให้รสสัมผัสนุ่มและละมุน
Crema	มี เครม่า (Crema) น้อย เพราะการเติมน้ำร้อนทับช็อตกาแฟทำให้เครม่าสลาย	มี เครม่าเยอะกว่า เพราะเทน้ำร้อนก่อน ทำให้เครม่าลอยอยู่ด้านบนสวยงาม
เหมาะกับใครบ้าง	เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบกาแฟดำรสกลาง ๆ ดื่มง่าย ไม่เข้มเกินไป เหมาะกับผู้เริ่มต้นดื่มกาแฟดำ	เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบกาแฟดำที่ยังมี กลิ่นและรสเข้มเล็กน้อย แต่ยังคงดื่มง่ายและนุ่มลึกกว่า

แต่เมนู Long black นั้นจะใส่น้ำร้อนก่อนจากนั้นค่อยสกัด Espresso Shot ลงไป เพราะฉะนั้นรสชาติรสสัมผัสอาจจะต่างกันเล็กน้อย กาแฟ Long black จะให้รสชาติกาแฟดําที่เข้มข้นกว่า Americano และยังคงไปด้วย Aroma ที่ชัดเจนกว่า

Long black, Americano และ Lungo ต่างกันอย่างไร

ทั้งสามเมนูนี้ล้วนเป็นกาแฟดำที่มีความคล้ายคลึงกัน แต่มีความแตกต่างในเรื่องของวิธีการชง รสชาติ และเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งสามารถสรุปเปรียบเทียบได้ดังนี้

หัวข้อ	Long Black Coffee	Americano	Lungo Coffee
วิธีการชง	เท น้ำร้อนลงในแก้วก่อน ประมาณ ¾ ของแก้ว แล้วจึงเติม เอสเพรสโซ่ช็อตลงด้านบน	สกัด เอสเพรสโซ่ช็อตใส่แก้วก่อน จากนั้นเติม น้ำร้อนตามลงไป (ประมาณ 3–4 ออนซ์ หรือ 90–120 ml)	เป็นการสกัดกาแฟเอสเพรสโซ่โดย "ลากช็อต" ให้นานขึ้น ปริมาณประมาณ 3–4 ออนซ์ (90–120 ml)
รสชาติ	รสชาติจะเข้มกว่าเล็กน้อยเพราะชั้น Crema ยังคงอยู่มากกว่า ให้รสสัมผัสนุ่มและละมุน	กาแฟดำรสชาติกลาง ๆ หอมกลิ่นกาแฟ เข้มปานกลาง ดื่มง่าย	เข้มข้น ขม และติดฝาดเล็กน้อย ยังมี Body ของกาแฟอยู่มาก
Crema	มี เครม่าเยอะกว่า เพราะเทน้ำร้อนก่อน ทำให้เครม่าลอยอยู่ด้านบนสวยงาม	มี เครม่า (Crema) น้อย เพราะการเติมน้ำร้อนทับช็อตกาแฟทำให้เครม่าสลาย	มี ชั้นเครม่า (Crema) หนานุ่ม เพราะเกิดจากการสกัดเอสเพรสโซ่ที่ยาวขึ้นโดยไม่เติมน้ำร้อนเพิ่มเติม
เหมาะกับใครบ้าง	เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบกาแฟดำที่ยังมี กลิ่นและรสเข้มเล็กน้อย แต่ยังคงดื่มง่ายและนุ่มลึกกว่า	เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบกาแฟดำรสกลาง ๆ ดื่มง่าย ไม่เข้มเกินไป เหมาะกับผู้เริ่มต้นดื่มกาแฟดำ	เหมาะกับผู้ที่ชอบกาแฟดำรสเข้ม ขม และเข้มข้นแบบเต็มรส

ประโยชน์ของกาแฟดำ

1. 1. เพิ่มพลังงาน เพิ่มความสดชื่น: คาเฟอีนช่วยกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง ทำให้ร่างกายรู้สึกตื่นตัว
2. 2. ลดความเสี่ยงของโรคเบาหวาน: ช่วยเพิ่มการสร้างอินซูลินของร่างกาย
3. 3. ลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด
4. 4. ช่วยควบคุมน้ำหนัก: เพิ่มอัตราการเผาผลาญไขมันและอาจช่วยลดความอยากอาหาร
5. 5. ช่วยในการออกกำลังกาย: กระตุ้นการหลั่งอะดรีนาลีน ช่วยให้ออกกำลังกายได้นานขึ้น
6. 6. ช่วยลดอาการเมาค้าง: มีฤทธิ์ขับปัสสาวะ ช่วยให้รู้สึกดีขึ้นได้หลังดื่มหนัก

ข้อควรระวัง

1. 1. ส่งผลต่อการนอนหลับ: ไม่ควรดื่มในช่วงเย็นหรือค่ำ
2. 2. อาจส่งผลต่อร่างกายและหัวใจ: บางคนที่ไวต่อคาเฟอีน อาจมีอาการใจสั่น หงุดหงิด กระวนกระวาย
3. 3. ไม่เหมาะกับผู้มีปัญหากระเพาะอาหาร: กาแฟดำมีความเป็นกรด อาจทำให้เกิดอาการระคายเคืองหรือกรดไหลย้อน
4. 4. ไม่ควรดื่มเกิน 2-3 แก้วต่อวัน เพื่อหลีกเลี่ยงผลเสียต่อสุขภาพ

เมื่อตอนต้นบทความ เราได้แนะนำกาแฟของ Nespresso ในรสชาติที่อยากให้ลองดื่มเป็น Long black ไปแล้ว ต่อไปเนสเพรสโซขอแนะนำกาแฟในกลุ่ม Lungo ที่คัดความเข้มมาส่งถึงที่เลยค่ะ เรามาเริ่มสำหรับท่านที่ชอบดื่มกาแฟสายดาร์คกันเลย

กาแฟในกลุ่ม Lungo ของเนสเพรสโซนั้นค่อนข้างมีความหลากหลายทั้งในเรื่องของกลิ่นและรสชาติ หากท่านเป็นหนึ่งคนที่ชอบความเข้ม ต้องมาลองชิมกาแฟ Lungo รสชาติ Cape town ซึ่งเป็นหนึ่งรสชาติในกาแฟกลุ่ม World Explorations ที่ได้คัดสรรกาแฟอาราบิก้าจากอินเดียและโรบัสต้าจากเม็กซิโก ให้กลิ่นหอมของกลิ่นคั่วและกลิ่นไม้อ่อน ๆ

เนสเพรสโซยังมีกาแฟแคปซูลอีกหลากหลายรสชาติที่รอให้ทุกท่านมาลองและสัมผัสกับรสชาติที่เกิดจากความใส่ใจในทุก ๆ กระบวนการตั้งแต่ขั้นตอนในการปลูก จนถึงปลายทางอย่าง Coffee Lover ทุกท่าน เพราะเราคือผู้เชี่ยวชาญทางด้านกาแฟที่ต้องการส่งต่อความสุขจากการดื่มกาแฟด้วยการทำที่ง่ายและสะดวกสบาย แค่มีเครื่องเนสเพรสโซก็เหมือนมีบาริสต้าที่บ้านแล้ว

สำหรับคอกาแฟท่านใดสนใจอยากลองชิมกาแฟ หรือทำ Tasting กาแฟรสชาติต่าง ๆ ก็สามารถแวะมาเจอพร้อมพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญกันได้ที่ Nespresso สาขาเมกะ บางนาได้เลย บูติคของเนสเพรสโซอยู่บริเวณชั้น 1 หน้าทางเข้า Central Department Store แล้วค้นพบกาแฟแก้วโปรดของคุณวันนี้ ประสบการณ์กาแฟระดับพรีเมียม รอคุณอยู่ที่นี่

บทความถูกเขียนโดย
คุณวิกกี้ เนสเพรสโซบูติก เมกาบางนา

คำถามที่พบบ่อย