ข้ามไปยังเนื้อหา
หัวเรื่อง
คุณอยู่ที่เนื้อหาหลัก


กาแฟ Dirty กาแฟผสมนมรสชาติเข้มข้นหอมมัน ที่หลายคนหลงใหล



กาแฟ Dirty คือการแยกชั้นของนมสดเย็นและช็อตเอสเปรสโซ่

กาแฟ Dirty คืออะไร คำถามที่คอกาแฟส่วนใหญ่ต้องเอ่ยถามบาริสต้าในครั้งแรกที่เห็นเมนู แม้ชื่อจะฟังดูไม่คุ้นหู และหน้าตากาแฟที่หลายคนไม่คุ้นเคย ทว่ารสชาติของกาแฟ Dirty กลับมัดใจผู้คนให้หลงใหลในรสชาติตั้งแต่ช็อตแรกที่ดื่ม


First Impression ของคนที่ดื่มกาแฟ Dirty คือรสชาติที่ผสมผสานกันระหว่างกาแฟและนม ซึ่งถูกเชื่อมโยงเข้าหากันในอุณหภูมิที่พอเหมาะ แม้จะมีส่วนผสมที่เรียบง่าย แต่กรรมวิธีในการชงกลับพิถีพิถันอย่างยิ่ง มากไปกว่านั้น กาแฟ Dirty ยังมีประวัติที่น่าสนใจเกี่ยวกับบาริสต้าสายเลือดซามูไรและการนำเสนอเมนูใหม่ของเขาในดินแดนแห่งเสรีภาพ เรื่องราวของกาแฟ Dirty จะเป็นอย่างไร มาติดตามกัน



กาแฟ Dirty คืออะไร?


กาแฟ Dirty คือกาแฟนมที่พิเศษกว่ากาแฟใส่นมทั่วไปที่เราคุ้นเคยอย่างลาเต้ หรือคาปูชิโน จุดเด่นของกาแฟ Dirty คือการแยกชั้นของนมสดเย็นและช็อตเอสเปรสโซ่ หรือริสเทรตโต (Ristretto) ซึ่งเป็นเอสเปรสโซ่ที่เข้มข้นขึ้นกว่าช็อตปกติ โดยด้านล่างจะเป็นนมสดที่เย็นกำลังดี และราดด้วยช็อตเอสเปรสโซ่ ให้ค่อยๆ ไหลลึกลงไปในนมสด เกิดเป็นรสชาติละมุนละไม และแฝงความหอม เข้มในแบบเอสเพรสโซ่



กาแฟ Dirty เป็นที่รู้จักครั้งแรกที่ สหรัฐอเมริกา

จุดกำเนิดของกาแฟ Dirty มาจากไหน?


กาแฟ Dirty เกิดขึ้นจากฝีมือการปรุงของคัตสึยูกิ ทานากะ (Katsuyuki Tanaka) บาริสต้าผู้หลงใหลในกาแฟเอสเพรสโซ เจ้าของบาร์เอสเพรสโซเลื่องชื่อ Bear Pond Espresso แห่งย่านชิโมะคิตาซาวะ กรุงโตเกียว ที่เปิดต้อนรับคอกาแฟมาตั้งแต่ปี 2009 ทว่ากาแฟ Dirty เป็นที่รู้จักครั้งแรกที่มหานครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เมื่อคัตซึยูกิได้เสิร์ฟกาแฟชนิดนี้ที่ร้านกาแฟชื่อ Joe The Art of Coffee ก่อนที่กาแฟ Dirty จะกลับสู่แดนซามูไรในฐานะเมนูซิกเนเจอร์ของร้าน Bear Pond Espresso


ความไม่ธรรมดาของกาแฟ Dirty จากร้าน Bear Pond Espresso คือเมล็ดกาแฟที่เบลนด์โดยมือคั่วกาแฟระดับฝีมือ โนริอากิ โยชิเมะ (Noriaki Yoshime) ซึ่งเป็นโรสเตอร์คู่ใจของคัตซึยูกิ ก่อนนำไปชงด้วยเทคนิคเฉพาะตัวของคัตซึยูกิ เสิร์ฟมาในขวดแก้วทรงกลม หรือ Mason Jar ที่สามารถรักษาความเย็นของนมสดได้ในช่วงระยะเวลายกดื่ม



ชื่อกาแฟ Dirty มีที่มาอย่างไร?


ชื่อที่ฟังดูมอมแมมของกาแฟ Dirty สื่อถึงเส้นสายของกาแฟเอสเพรสโซ่ที่ค่อยๆซึมลงสู่ชั้นของนมสดเย็น ที่มีความตึงตัวและข้นกว่านมสดในอุณหภูมิปกติ นมสดสีขาวนวลจึงถูกแต่งแต้มด้วยสีเข้มของเอสเพรสโซ่ กลายเป็นสีสันตัดกันอันแฝงไว้ด้วยรสสัมผัสที่แตกต่าง และเอกลักษณ์ของกาแฟ Dirty ที่ไม่ว่าจะชงสักกี่แก้ว ก็ยากที่จะออกมาหน้าตาเหมือนเดิม



กาแฟ Dirty คือ Fluid Art ที่วาดลวดลายผ่านเส้นสายเอสเพรสโซในแก้วกาแฟ

รสชาติ และศิลปะของกาแฟ Dirty เป็นอย่างไร?


จุดเด่นด้านรสชาติของกาแฟ Dirty คือความซับซ้อน คาดเดาได้ยาก เพราะแต่ละขณะที่ดื่มรสสัมผัสของกาแฟจะค่อยๆ เปลี่ยนไป จากการซึมซาบของกาแฟเอสเปรสโซ่ จากด้านบนลงไปสู่ก้นแก้ว บางคำจึงหอมมันจากนมสดเย็น และบางคำก็เข้มไปด้วยรสชาติของเอสเพรสโซสลับกันไปจนหมดแก้ว


บรรดาคอกาแฟหลายคนมอบให้กาแฟ Dirty คือศิลปะอย่างหนึ่งในการปรุงกาแฟ หรือเป็น Fluid Art ที่วาดลวดลายผ่านเส้นสายเอสเพรสโซ ปรากฏตัวในแก้วกาแฟ ใบใสแจ๋ว จากชั้นของกาแฟด้านบน ไหลลงสู่ด้านล่าง และค่อยๆ เปลี่ยนลวดลายทุกครั้งที่ยกแก้วขึ้นดื่ม




กาแฟ Dirty มีส่วนผสมหลักเพียง 2 อย่างคือช็อตเอสเพรสโซ่ และนมสด

กาแฟ Dirty ทำอย่างไร?


อย่างที่บอกข้างต้นว่า กาแฟ Dirty คือกาแฟที่มีส่วนผสมหลักเพียง 2 อย่างคือช็อตเอสเพรสโซ่ และนมสด โดยวิธีการทำกาแฟ Dirty เบื้องต้นไม่ซับซ้อน สามารถทำได้จากสูตรต่อไปนี้



ส่วนประกอบ


  • 1. ช็อตเอสเพรสโซ 1oz หรือ 30ml หรือ ​กาแฟเเคปซูล Nespresso 1 แคปซูล​
  • 2. นมสดรสจืด 4 oz หรือ 120 ml
  • 3. วิปครีม เพื่อเพิ่มความหอม มัน 1oz หรือ 30 ml
  • 4. ไซรัปรสชาติที่ชอบ (หากต้องการเพิ่มความหวาน)


วิธีทำกาแฟ Dirty


  1. 1. ปรุงนมให้ได้รสชาติ ด้วยการผสมนมสดและวิปครีมเข้าด้วยกัน หากชอบหวานสามารถเติมไซรัปลงไปได้
  2. 2. นำนมสดที่ผสมได้รสชาติแล้วเข้าช่องฟรีซ ประมาณ 10 – 15 นาที ทำให้นมเย็นจัด ระวังอย่าให้เป็นเกร็ดน้ำแข็ง
  3. 3. ทำช็อตเอสเพรสโซที่เข้มข้นโดยเพิ่มปริมาณกาแฟและแรงกดให้มากขึ้น หรือเลือกใช้ช็อตเอสเพรสโซจากเครื่องชงกาแฟแคปซูล ที่สามารถเลือกชนิดของกาแฟได้ตามชอบ เพื่อความอร่อยในแบบเฉพาะตัว
  4. 4. นำช็อตเอสเพรสโซบรรจงราดลงบนนมที่เตรียมไว้ พร้อมดื่มด่ำกาแฟ Dirty ได้เลย


ทริกทำกาแฟ Dirtyให้อร่อยและสวยแบบมืออาชีพ


  • - หากต้องการให้ Dirty Coffee ออกมาสมบูรณ์แบบ ควรเลือกเสิร์ฟในแก้วใสเพื่อแสดงเลเยอร์ของกาแฟและนมอย่างคมชัด พร้อมแช่แก้วให้เย็นก่อนเสิร์ฟ เพื่อช่วยให้เลเยอร์คงตัวนานขึ้น
  • - อีกหนึ่งจุดเด่นของ Dirty Coffee คือความสามารถในการปรับแต่งรสชาติได้ตามต้องการ ตั้งแต่ระดับความเข้มของเอสเปรสโซ ความหวานของนม ไปจนถึงการเลือกท็อปปิ้งหรือซอส เช่น ครีมนมหรือวานิลลา เพื่อสร้างรสชาติที่ไม่จำเจและเข้ากับความชอบของผู้ดื่ม


การดื่มกาแฟ Dirty ควรดื่มให้หมดภายในเวลาไม่นาน

วิธีการดื่มกาแฟ Dirty ที่ถูกต้องดื่มอย่างไร?


ทันทีที่กาแฟ Dirty วางอยู่ตรงหน้า แนะนำให้ปล่อยวางทุกสิ่งรอบตัว แล้วดื่มด่ำรสชาติของกาแฟ อย่าถามหาช้อน หรือไม้คนกาแฟ แต่ให้ค่อยๆ ละเลียดชิมรสชาติของกาแฟในนมสดตามแบบที่ชงมาใหม่ๆ จะพบว่านอกจากจะพบรสชาติที่ละมุนละไมแล้ว อุณหภูมิที่เย็นจัดของนมสด และกาแฟอุ่นๆ คือความแตกต่างที่ผสานกันได้อย่างลงตัว การดื่มกาแฟ Dirty ควรดื่มให้หมดภายในเวลาไม่นาน อย่าทิ้งไว้จนอุณหภูมิของนมและกาแฟเปลี่ยนไป เพราะจะทำให้เสียรสสัมผัสที่เป็นเอกลักษณ์ของกาแฟ Dirty


หากคุณเป็นคนหนึ่งที่หลงใหลในกลิ่นหอม และหลงรักในรสชาติของกาแฟนานาชนิด การได้ดื่มกาแฟ Dirty ฝีมือตัวเองสักแก้วก็เป็นการสร้างประสบการณ์การดื่มกาแฟที่แปลกใหม่ไม่น้อย ยิ่งถ้าได้กาแฟรสชาติเยี่ยม ที่มีรสสัมผัสที่ถูกใจเป็นส่วนผสมแล้วล่ะก็ รับรองว่าจะติดใจ และลืมเมนูกาแฟ Dirty ที่คุณเคยลิ้มลองได้อย่างไม่น่าเชื่อ และสำหรับใครที่อยากลองทำ Dirty coffee แบบง่าย ๆ ที่บ้าน การเลือกใช้กาแฟที่มีคุณภาพคงที่ก็เป็นสิ่งสำคัญ ซึ่ง Nespresso มีแคปซูลให้เลือกหลายโปรไฟล์รสชาติ ตั้งแต่โทนเข้มลึกไปจนถึงโทนละมุน ทำให้คุณเลือกพื้นฐานคอฟฟี่ช็อตได้ตามสไตล์ที่ชอบ หากอยากดูรสชาติที่เข้ากับเมนู Dirty coffee ของคุณ ลองเข้าไปสำรวจเพิ่มเติมได้ที่ www.nespresso.com เพื่อค้นหากาแฟที่ใช่สำหรับสูตรเฉพาะตัวของคุณ



คำถามที่พบบ่อย


Dirty Coffee กับ Latte ต่างกันยังไง
Dirty coffee กับลาเต้มีส่วนผสมหลักเป็นนมและเอสเปรสโซเหมือนกัน แต่ Dirty coffee จะวางนมเย็นไว้ล่างสุดแล้วราดด้วยเอสเปรสโซร้อนเข้มข้น ทำให้เกิดเลเยอร์ที่ชัดเจนและรสชาติเข้มข้นในแต่ละจิบ ในขณะที่ลาเต้ (ร้อนหรือเย็น) จะผสมเอสเปรสโซเข้ากับนม (ร้อน) ตั้งแต่แรก ทำให้รสชาติละมุนกลมกล่อมและมีความเป็นเนื้อเดียวกันตลอดทั้งแก้ว
Dirty Coffee ทำไมแพง
Dirty Coffee มักมีราคาสูงกว่ากาแฟทั่วไป เพราะต้องใช้วัตถุดิบคุณภาพสูง เช่น เมล็ดกาแฟที่มีรสชัดและบาลานซ์ดีเมื่อนำมาราดบนนมเย็นจัด ซึ่งต้องควบคุมอุณหภูมิอย่างแม่นยำเพื่อให้เกิดเลเยอร์ที่สวยงามและไม่ละลายเร็ว นอกจากนี้ยังต้องใช้เทคนิคการชงและราดอย่างพิถีพิถันเพื่อให้ได้ความคอนทราสต์ของรสชาติในแต่ละชั้นอีกด้วย
ทำไม Dirty Coffee ถึงไม่ควรคนก่อนดื่ม
เพราะเสน่ห์ของ Dirty Coffee คือรสชาติที่ค่อย ๆ เปลี่ยนจากด้านบนลงล่าง การคนจะทำให้เลเยอร์ผสมกันหมดและเสียประสบการณ์ที่เป็นเอกลักษณ์ของเมนูนี้
Dirty Coffee ใช้เมล็ดกาแฟแบบคั่วอ่อนหรือคั่วเข้มอร่อยกว่ากัน
ถ้าอยากได้กลิ่นหอมชัดและรสผลไม้อ่อนๆ ให้ใช้คั่วอ่อน–กลาง แต่ถ้าชอบรสเข้มข้นแบบดั้งเดิม ให้ใช้คั่วเข้ม เพราะรสจะเด่นสู้กับนมเย็นได้ดีกว่า ทั้งนี้แล้วแต่สไตล์ที่ต้องการจริง ๆ