Skip to content

Header

You are on the main content
กาแฟคั่วอ่อน คั่วกลาง และคั่วเข้มต่างกันอย่างไร?
รู้หรือไม่ว่า กว่าจะมาเป็นกาแฟสดรสชาติหอมกรุ่นให้เราได้ดื่มในแต่ละแก้วนั้น เมล็ดกาแฟสดแต่ละเมล็ดได้มีการเดินทางผ่านขั้นตอนอะไรมาบ้าง

ตั้งแต่ผลเชอร์รี่กาแฟที่ผ่านการเก็บจากพื้นที่ในแต่ละประเทศ ที่มีสภาพภูมิประเทศและภูมิอากาศที่แตกต่าง ไปจนถึงการคั่วและการบริว จนออกมาเป็นกาแฟหนึ่งแก้ว ซึ่งคอกาแฟสดจะทราบกันดีว่า นอกจากจะมาจากพื้นที่ที่เพาะปลูกกาแฟที่ต่างกันแล้ว การคั่วกาแฟในแต่ละรูปแบบ ทั้งกาแฟคั่วอ่อน คั่วกลาง และคั่วเข้ม ก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้กาแฟสดมีกลิ่นและรสชาติที่แตกต่าง

ในวันนี้เราจะพาคุณไปทำความรู้จักและเจาะลึกกับการคั่วกาแฟในแบบต่างๆ ทั้งกาแฟคั่วอ่อน คั่วกลาง และคั่วเข้ม ให้มากยิ่งขึ้นว่า ภายในเมล็ดกาแฟคั่วเพียง 1 เมล็ดนั้นมีมิติอันสลับซับซ้อนของกลิ่นอโรม่า รสชาติ ไปจนถึงเนื้อสัมผัสซ่อนอยู่มากมาย เพื่อคุณจะได้ดื่มด่ำไปกับสุนทรียภาพของกาแฟในขณะที่ดื่ม รับรองได้เลยว่าการดื่มกาแฟในแก้วถัดไปของคุณจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

กาแฟคั่วอ่อน (Light Roast)
คืออะไร?


กาแฟคั่วอ่อนเกิดจากกระบวนการคั่วเมล็ดกาแฟด้วยความร้อนต่ำ ประมาณ 190 – 210 องศาเซลเซียส จึงทำให้เมล็ดกาแฟมีสีน้ำตาลอ่อน ผิวดูแห้งเพราะยังไม่มีน้ำมันออกมาเคลือบบริเวณเมล็ด กาแฟคั่วอ่อนมีรสชาติและความขมที่เบาที่สุดจากทุกระดับการคั่ว รสชาติออกเปรี้ยวและหวานที่ปลายลิ้นพร้อมกลิ่นดอกไม้ ผลไม้ ต่าง ๆ ทำให้ทานง่ายแม้เป็นเมนูกาแฟดำ กาแฟคั่วอ่อน เหมาะนำไปทำกาแฟดริปหรือสโลว์บาร์ต่าง ๆ

  • ลักษณะทางกายภาพของเมล็ด: สีน้ำตาลอ่อน เมล็ดดูแห้ง บางครั้งดูมีเปลือกกาแฟบางๆ หลงเหลืออยู่ (Silver Skin)

  • รสชาติของกาแฟคั่วอ่อน: กาแฟคั่วอ่อนมีรสชาติที่เบาที่สุดจากระดับการคั่วทั้ง 3 ระดับ มีความเปรี้ยวหรือบางครั้งมีรสหวานคล้ายดอกไม้ที่ปลายลิ้นและกลิ่นผลไม้ตามสายพันธุ์กาแฟที่นำมาใช้ ซึ่งมักจะพบได้ในกาแฟจากแอฟริกา

  • รูปแบบที่เหมาะกับการดื่ม: กาแฟดริปหรือสโลว์บาร์ต่าง ๆ
  • กาแฟคั่วกลาง (Medium Roast)
    คืออะไร?


    กาแฟคั่วกลางเกิดจากกระบวนการคั่วเมล็ดกาแฟด้วยความร้อนในระดับกลาง ให้สีน้ำตาลเข้มกว่ากาแฟคั่วอ่อน มีน้ำมันที่เกิดจากการคั่วเคลือบอยู่ที่เมล็ด กลิ่นหอมคาราเมลและนัตตี้ มีบอดี้กาแฟหนักมากขึ้น และมีรสชาติหอมหวานกลมกล่อมในแบบพอดี ๆ

    เนื่องจากกาแฟคั่วกลางนั้นมีระดับการคั่วที่อยู่กึ่งกลางระหว่างกาแฟคั่วอ่อนและกาแฟคั่วเข้ม ทำให้มีรสชาติที่ออกมาจะไม่ขมเกินไปและไม่บางหรือเปรี้ยวจนเกินไป มักเป็นที่นิยมสำหรับคอกาแฟหลายคนในการทำกาแฟนมทั้งร้อนและเย็นได้หลากหลายเมนู

    กาแฟคั่วกลางถือได้ว่าเป็นกาแฟที่ได้รับความนิยมมากที่สุดทั่วโลก เนื่องจากกาแฟคั่วกลางมีรสชาติที่กลมกล่อมเข้าถึงง่ายสำหรับคอกาแฟหลายคน

  • ลักษณะทางกายภาพของเมล็ด: สีน้ำตาลเข้มกว่าเมล็ดกาแฟคั่วอ่อน ผิวของเมล็ดกาแฟมีน้ำมันเคลือบอยู่บาง ๆ

  • รสชาติของกาแฟคั่วกลาง: กาแฟคั่วกลางมีรสชาติความเข้มที่อยู่กึ่งกลางระหว่างกาแฟคั่วอ่อนและคั่วเข้ม ความหอมหวานกลมกล่อม

  • รูปแบบที่เหมาะกับการดื่ม: สามารถทำกาแฟนมได้หลากหลายเมนู เช่น คาปูชิโน่ มอคค่า ลาเต้ ฯลฯ
  • กาแฟคั่วเข้ม (Dark Roast)
    คืออะไร?


    กาแฟคั่วเข้มเกิดจากกระบวนการคั่วเมล็ดกาแฟด้วยความร้อนในระดับสูง ให้สีน้ำตาลเข้มกว่ากาแฟชนิดอื่น มีน้ำมันเป็นจำนวนมากที่เกิดจากการคั่วเคลือบอยู่ที่เมล็ด กลิ่นหอมไหม้แบบสโมค บอดี้กาแฟจะข้น สีกาแฟจะเข้มชัดเจน กาแฟคั่วเข้มมีความเข้มมากที่สุดจากทุกระดับการคั่ว ทำให้มีรสชาติขม เข้มข้น และรสชาติจะออกไปทางหวานมากกว่าเปรี้ยว นิยมนำมาทำเมนูกาแฟเย็น ใส่นม

    กาแฟคั่วเข้มถือเป็นกาแฟที่ได้รับความนิยมทั่วโลกอีกเช่นกันเนื่องจากสามารถนำมาทำกาแฟได้หลากหลายเมนู และรสชาติและกลิ่นที่โดดเด่นชัดเจน
  • ลักษณะทางกายภาพของเมล็ด: สีน้ำตาลเข้ม ผิวของเมล็ดกาแฟมีน้ำมันเคลือบอยู่มากที่สุด

  • รสชาติของกาแฟคั่วเข้ม: กาแฟคั่วเข้มมีรสขมและเข้ม มีกลิ่นหอมควัน ส่วนใหญ่มีรสไปทางหวานมากกว่าเปรี้ยว

  • รูปแบบที่เหมาะกับการดื่ม: เอสเพรสโซ่ หรือกาแฟใส่นมอย่าง คาปูชิโน่ มอคค่า ลาเต้ ฯลฯ


  • เมื่อรู้อย่างนี้แล้วระดับการคั่วกาแฟนั้นมีผลต่อรสชาติกาแฟเป็นอย่างมาก ใครที่ชอบรสชาติเบาบางหรือติดเปรี้ยวก็เลือกเป็นกาแฟคั่วอ่อน หรือต้องการเข้มขึ้นมากอีกนิดที่มาพร้อมกับความกลมกล่อมอย่างลงตัวอย่างกาแฟคั่วกลาง หรือจะเป็นกาแฟคั่วเข้มสำหรับคนที่ชอบรสขมเข้ม ปนหวาน ที่โดดเด่น

    ทีนี้ไม่ว่าจะเป็นกาแฟเมนูไหนคุณก็สามารถเลือกระดับการคั่วเมล็ดกาแฟที่เหมาะสมกับความชอบของคุณได้ จะทำให้เราสัมผัสได้ถึงรสชาติ ความเข้ม ดื่มด่ำไปกับสุนทรียภาพของกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของเมนูกาแฟแก้วโปรดของคุณได้มากที่สุด