ข้ามไปยังเนื้อหา
หัวเรื่อง
คุณอยู่ที่เนื้อหาหลัก


กาแฟสกัดเย็น Cold Brew คืออะไร มีวิธีชงอย่างไรบ้าง



กาแฟสกัดเย็น Cold Brew คืออะไร

ทุกคนเคยสงสัยกันไหมคะ ว่ากาแฟสกัดเย็น หรือที่เรียกกันว่า Cold Brew คืออะไรกันแน่? กาแฟสกัดเย็นนับได้ว่าเป็นกาแฟที่กำลังมาแรงอย่างมากในตอนนี้ ไม่ว่าจะเป็นตามคาเฟ่ ร้าน Specialty Coffee รวมถึงช่องทางออนไลน์ด้วย


หลายคนอาจเคยได้ยินชื่อนี้มาบ้าง แต่ยังไม่รู้ว่ามันคืออะไร และมีวิธีการทำอย่างไร ในบทความนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับกาแฟ Cold Brew พร้อมแยกความแตกต่างว่ากาแฟชนิดนี้ต่างจากกาแฟธรรมดาอย่างไร ไปเริ่มกันเลย!



กาแฟสกัดเย็น หรือ กาแฟ Cold Brew คืออะไร


กาแฟสกัดเย็น (Cold Brew) คือกาแฟที่ถูกสกัดโดยใช้น้ำเย็นหรือน้ำอุณหภูมิต่ำ แทนการใช้น้ำร้อนแบบการชงกาแฟทั่วไป โดยใช้เมล็ดกาแฟที่บดหยาบและแช่ในน้ำเย็นนานประมาณ 8–24 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับระดับการบดและรสชาติที่ต้องการ


เราสามารถปรับระยะเวลาการแช่เพื่อควบคุมความเข้มและรสชาติของกาแฟได้ เมื่อครบเวลาแล้ว ให้นำมากรองใส่ขวดหรือภาชนะที่ปิดสนิท และแช่ไว้ในตู้เย็นเพื่อรักษาความสด เท่านี้ก็จะได้กาแฟ Cold Brew ที่มีความ นุ่มละมุน เบาบาง และกลมกล่อม พร้อมดื่มได้ทุกเวลา



เอกลักษณ์เฉพาะตัวของกาแฟสกัดเย็น Cold Brew เป็นอย่างไร


กาแฟ Cold Brew หรือกาแฟสกัดเย็นมีรสชาติที่อ่อนนุ่มและกลมกล่อมเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ดื่มง่ายกว่ากาแฟทั่วไป เนื่องจากกรรมวิธีการสกัดด้วยน้ำเย็นช่วยลดความขมและความเปรี้ยวจากเมล็ดกาแฟ ทำให้ได้รสชาติที่นุ่มละมุน หอมหวานตามธรรมชาติ ถึงแม้รสชาติจะเบากว่ากาแฟร้อน แต่ยังคงมีระดับคาเฟอีนและบอดี้ของกาแฟที่หนักแน่นเหมือนเดิม


กาแฟ Cold Brew จึงเป็นอีกทางเลือกที่เหมาะกับคอกาแฟที่ไม่ชอบรสเปรี้ยวหรือขมจัด นอกจากนี้ยังมีข้อดีในด้านการเก็บรักษา เพราะกาแฟสกัดเย็นสามารถเก็บไว้ในภาชนะปิดสนิทในตู้เย็นได้นานถึง 1–2 สัปดาห์ โดยที่รสชาติและกลิ่นหอมไม่เปลี่ยน



ข้อดีของ Cold Brew หรือกาแฟสกัดเย็น


ข้อดีที่โดดเด่นของกาแฟสกัดเย็นคือ สามารถปรับความเข้มข้นของกาแฟได้ตามต้องการ เพียงเปลี่ยนอัตราส่วนระหว่างผงกาแฟกับน้ำ คุณสามารถดื่มกาแฟได้รสเข้ม หรือเจือจางให้เบาขึ้นโดยไม่ต้องกลัวว่ารสชาติจะเสียเมื่อต้องใส่น้ำแข็ง


สิ่งที่ทำให้กาแฟสกัดเย็นแตกต่างจากกาแฟร้อนอย่างชัดเจนคือรสชาติที่ นุ่มนวลและละมุน ไม่มีความขมหรือความเปรี้ยวรุนแรงเหมือนกาแฟร้อน วิธีสกัดด้วยน้ำเย็นเป็นเวลานานช่วยให้ได้รสกาแฟที่บริสุทธิ์และเข้าถึงง่าย หลายคนจึงนิยมดื่มแบบไม่ต้องเติมนมหรือน้ำตาลเลย


กาแฟ Cold Brew จึงเป็นเครื่องดื่มที่เหมาะกับทั้งคอกาแฟและมือใหม่ เพราะให้ความหอมหวานตามธรรมชาติ ดื่มง่าย และสามารถปรับรสชาติตามความชอบได้อย่างอิสระ




กาแฟสกัดเย็น ต่างจากกาแฟทั่วไปยังไง


กาแฟสกัดเย็น ต่างจากกาแฟทั่วไปยังไง


หัวข้อเปรียบเทียบ กาแฟสกัดเย็น (Cold Brew) กาแฟทั่วไป
วิธีการชง ใช้น้ำเย็นสกัดกาแฟ ใช้เวลา 12–24 ชั่วโมง ใช้น้ำร้อนสกัดกาแฟ ใช้เวลาไม่เกิน 5 นาที
รสชาติ รสชาตินุ่มนวล กลมกล่อม มีความขมน้อย รสชาติเข้มข้น ขม และอาจมีรสเปรี้ยว
คาเฟอีน มีคาเฟอีนน้อยกว่า มีคาเฟอีนมากกว่า
กรด มีกรดน้อย เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะอาหาร มีกรดมากกว่า (หากเป็นเมล็ดกาแฟที่คั่วอ่อน)
การเก็บรักษา เก็บในตู้เย็นได้นาน 2–3 สัปดาห์ ควรดื่มทันที


กาแฟสกัดเย็น vs กาแฟดริปเย็น ต่างกันยังไง?


กาแฟสกัดเย็น (Cold Brew) และกาแฟดริปเย็น (Cold Drip) เป็นสองวิธีการทำกาแฟเย็นที่แม้จะใช้ “น้ำเย็น” เหมือนกัน แต่มีเอกลักษณ์และผลลัพธ์ที่แตกต่างกันชัดเจน ทั้งในเรื่องกระบวนการชงและรสชาติที่ได้


กาแฟสกัดเย็น (Cold Brew) ใช้วิธีแช่ผงกาแฟบดหยาบในน้ำเย็นเป็นเวลานาน 12–24 ชั่วโมง เพื่อให้สารสำคัญในกาแฟค่อยๆ ละลายออกมาอย่างอ่อนโยน วิธีนี้ให้รสชาตินุ่มนวล กลมกล่อม ไม่ขมและไม่เปรี้ยว เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบกาแฟดื่มง่ายและต้องการเตรียมกาแฟไว้ล่วงหน้าในปริมาณมาก


กาแฟดริปเย็น (Cold Drip) ใช้เทคนิคการหยดน้ำเย็นหรือน้ำอุ่นลงบนผงกาแฟบดละเอียดอย่างช้าๆ ควบคุมอัตราการหยดและอุณหภูมิของน้ำอย่างแม่นยำ เพื่อดึงรสชาติออกมาอย่างละเอียดลึกซึ้ง กาแฟที่ได้จะมีความสดชื่น คมชัด และมักคงความเป็นกรดและกลิ่นเฉพาะของเมล็ดกาแฟได้ดีกว่า เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบกาแฟที่มีความซับซ้อนและปรับแต่งรสชาติได้เอง


หากคุณต้องการกาแฟที่ รสละมุน ดื่มง่าย และสะดวกในการเตรียม ให้เลือกกาแฟสกัดเย็น (Cold Brew) แต่หากคุณหลงใหลในความพิถีพิถันและ ต้องการรสชาติที่คมชัดและซับซ้อนกว่า กาแฟดริปเย็น (Cold Drip) คือตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุด




กาแฟแบบไหนเหมาะกับการทำกาแฟสกัดเย็น

เมล็ดกาแฟที่เหมาะสำหรับการทำ Cold Brew คือเมล็ดกาแฟสายพันธุ์ อาราบิก้า (Arabica) ที่ผ่านการคั่วในระดับอ่อนถึงกลาง และบดให้หยาบพอดี เพื่อให้การสกัดเป็นไปอย่างช้าและนุ่มนวล รสชาติที่ได้จะหอมละมุน ไม่ขมจัด และดื่มง่าย


ในทางตรงกันข้าม เมล็ดกาแฟ โรบัสต้า (Robusta) มักไม่เหมาะกับการทำ Cold Brew เพราะมีรสเข้มและขมมากกว่า แม้จะมีคาเฟอีนสูงกว่า แต่จะให้รสสัมผัสที่กระด้างและแรงเกินไป


เมื่อใช้เมล็ดอาราบิก้าผ่านกระบวนการสกัดเย็นเป็นเวลานาน รสชาติของกาแฟจะเปลี่ยนเป็นแบบ ละมุน หอมหวานธรรมชาติ และดื่มง่าย ทำให้ Cold Brew กลายเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมของคนที่ต้องการความสดชื่นแบบไม่กระแทกใจ



กาแฟสกัดเย็น Cold Brew เหมาะกับใคร


กาแฟสกัดเย็น หรือ กาแฟ Cold Brew เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบกาแฟรสชาตินุ่มนวล กลมกล่อม ไม่เข้มขมหรือเปรี้ยวเกินไป เหมาะกับผู้ที่ต้องการลดปริมาณคาเฟอีนในแต่ละวัน และต้องการกาแฟที่สามารถเก็บไว้ดื่มได้นานโดยไม่เสียรสชาติ แตกต่างจากกาแฟทั่วไปที่เหมาะกับผู้ที่ชอบรสเข้มจัด ต้องการคาเฟอีนสูง และชอบดื่มกาแฟสดใหม่ทันทีหลังชง


กาแฟ Cold Brew จึงกลายเป็นทางเลือกใหม่ที่ตอบโจทย์คอกาแฟยุคใหม่ ที่ต้องการทั้งความอร่อยและประโยชน์ต่อสุขภาพในเวลาเดียวกัน เพราะไม่เพียงแต่ให้รสชาติที่ละมุน แต่ยังสามารถเตรียมไว้ล่วงหน้าและเก็บดื่มได้หลายวัน เหมาะกับคนที่มีไลฟ์สไตล์เร่งรีบแต่ยังอยากได้กาแฟคุณภาพดีไว้เติมพลังทุกเช้า



วิธีการชงกาแฟสกัดเย็น Cold Brew



วิธีการชงกาแฟสกัดเย็น Cold Brew

  1. 1. บดเมล็ดกาแฟให้หยาบ (ขนาดประมาณเมล็ดงา)
  2. 2. นำกาแฟบดใส่ภาชนะตามอัตราส่วนที่ต้องการ (เช่น กาแฟ 1 ส่วน ต่อน้ำ 8 ส่วน)
  3. 3. เทน้ำเย็นลงไปให้ทั่วผงกาแฟ
  4. 4. ปิดฝาและแช่ทิ้งไว้ในตู้เย็น 12–24 ชั่วโมง
  5. 5. กรองกากกาแฟออก ก็จะได้กาแฟสกัดเย็นพร้อมดื่ม

เพียงเท่านี้คุณก็จะได้กาแฟ Cold Brew แสนอร่อยที่เก็บไว้ดื่มได้หลายวัน และสามารถนำไปต่อยอดทำเมนูอื่น ๆ ได้มากมาย เช่น ผสมกับนมสด น้ำผึ้ง น้ำผลไม้ หรือไอศกรีม เพื่อเพิ่มความสดชื่นและรสชาติที่หลากหลายได้ตามใจชอบ


สำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกและรวดเร็วโดยไม่ต้องรอการสกัดนานหลายชั่วโมง แนะนำให้ลองใช้แคปซูลกาแฟ “Nespresso Vertuo Cold Brew Style Intense” กลิ่นคาราเมลและซีเรียลที่ได้รับแรงบันดาลใจจากกาแฟสกัดเย็น ผลิตจากเมล็ดอาราบิก้าชั้นดีจากบราซิลและกัวเตมาลา เพียงใส่กาแฟแคปซูลลงในเครื่องชงกาแฟ Nespresso Vertuo ก็สามารถดื่มกาแฟ Cold Brew รสละมุนได้ทันที ปริมาณต่อแก้วสูงสุดถึง 355 ml ให้คุณสัมผัสความหอม เข้ม และเย็นสดชื่นได้ง่าย ๆ ที่บ้าน



วิธีการทำกาแฟสกัดเย็น Cold Brew ด้วยเครื่อง Nespresso VERTUO


  1. 1. เติมน้ำเย็นลงในแท็งก์น้ำของเครื่องชงกาแฟ Nespresso VERTUO
  2. 2. ใส่น้ำแข็ง 3–4 ก้อนลงในแก้วที่ต้องการเสิร์ฟ
  3. 3. กดแคปซูลกาแฟ Cold Brew Style Intense ลงในแก้ว
  4. 4. ดมกลิ่นหอมของคาราเมลและธัญพืชคั่ว แล้วดื่มด่ำกับกาแฟสกัดเย็นแก้วโปรดของคุณ


เคล็ดไม่ลับกับเมนูกาแฟ Cold Brew สุดพิเศษ การดื่มกาแฟดำจะไม่น่าเบื่ออีกต่อไป


เพียงใช้ส่วนผสมไม่กี่อย่าง คุณก็สามารถสร้างโมเมนต์กาแฟสุดพิเศษได้ง่าย ๆ ที่บ้าน ทั้งอร่อย สดชื่น และสนุก เพียงแค่ผสมกาแฟ Cold Brew กับน้ำผลไม้ตามชอบ หากชอบความหวานสามารถใช้ไซรัปผลไม้แทนได้ และหากต้องการความซ่าชื่นใจ ลองเติมโซดาเล็กน้อย เท่านี้กาแฟ Cold Brew ของคุณก็จะไม่ธรรมดาอีกต่อไป!



Cold Brew Sparkling Citrus


  • 1. สกัดกาแฟ Cold Brew Style Intense ด้วยเครื่อง Nespresso VERTUO แล้วแบ่งเตรียมไว้ตามปริมาณที่ต้องการ
  • 2. เติมน้ำส้มเข้มข้น 30 ml ลงในแก้ว
  • 3. เติมโซดาเล็กน้อย
  • 4. จากนั้นเทกาแฟ Cold Brew Style Intense ลงด้านบน (On Top)

เพียงเท่านี้คุณก็จะได้เมนูกาแฟเย็นสุดพิเศษที่ทั้งหอม สดชื่น และลงตัว เหมาะสำหรับวันสบาย ๆ ที่บ้าน


แค่มีเครื่องชงกาแฟและแคปซูลกาแฟพรีเมียมจาก Nespresso คุณก็สามารถสัมผัสประสบการณ์กาแฟ Cold Brew ระดับบาริสต้าได้ง่าย ๆ ที่บ้าน เหมือนมีบาริสต้าส่วนตัวอยู่ใกล้คุณ และหากอยากสัมผัสบรรยากาศจริง สามารถแวะเยี่ยมชม Nespresso Boutique ทั้ง 9 สาขา เพื่อพูดคุย แลกเปลี่ยนประสบการณ์ และทดลองชิมกาแฟสุดพิเศษได้เลย


พร้อมจะสัมผัสประสบการณ์กาแฟ Cold Brew สุดพิเศษแล้วหรือยัง?

ด้วยแคปซูลกาแฟ Nespresso Vertuo Cold Brew Style Intense คุณจะได้เพลิดเพลินกับรสชาติคาราเมลและซีเรียลคั่วที่หอมหวานนุ่มนวล เพียงแค่มีเครื่องชงกาแฟ Nespresso VERTUO ก็สามารถสร้างกาแฟสกัดเย็นระดับบาริสต้าได้ง่าย ๆ ที่บ้าน ไม่ว่าจะดื่มแบบดำหรือปรุงเป็นเมนูสร้างสรรค์ต่าง ๆ


ค้นพบความหลากหลายของกาแฟพรีเมียมและสั่งซื้อออนไลน์ได้ง่าย ๆ ที่ www.nespresso.com หรือเยี่ยมชม Nespresso Boutique ทั้ง 9 สาขาเพื่อรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญและทดลองชิมกาแฟสุดพิเศษ



บทความถูกเขียนโดย คุณจูน เนสเพรสโซบูติก ไอคอนสยาม



คำถามที่พบบ่อย

สามารถนำกาแฟสกัดเย็นมาผสมกับนมร้อนทำเป็นเครื่องดื่มร้อนได้หรือไม่?
การนำกาแฟสกัดเย็นมาผสมกับนมร้อนเป็นวิธีที่น่าสนใจ เพราะจะได้กาแฟร้อนที่มีรสชาตินุ่มนวลและไม่ขมมากนัก อย่างไรก็ตาม ควรใส่กาแฟสกัดเย็นในปริมาณที่มากกว่าปกติเล็กน้อย เนื่องจากความร้อนจากนมอาจทำให้รสชาติเจือจางลง
หากใช้น้ำก๊อกธรรมดาในการสกัดกาแฟเย็น จะส่งผลต่อรสชาติอย่างไร?
น้ำที่ใช้มีผลต่อรสชาติของกาแฟสกัดเย็นอย่างมาก น้ำก๊อกที่มีคลอรีนหรือสารเคมีปนเปื้อนอาจทำให้รสชาติของกาแฟเปลี่ยนไป แนะนำให้ใช้น้ำกรองหรือน้ำดื่มคุณภาพดี เพื่อให้ได้รสชาติกาแฟที่บริสุทธิ์และหอมหวานที่สุด
การสกัดกาแฟเย็นนานเกิน 24 ชั่วโมงจะเกิดอะไรขึ้น?
หากสกัดนานเกิน 24 ชั่วโมง กาแฟอาจเริ่มมีรสขมมากขึ้นและอาจเกิดการหมักหรือเสื่อมสภาพได้ รวมทั้งอาจมีแบคทีเรียเจริญเติบโต ดังนั้นไม่แนะนำให้แช่เกิน 24 ชั่วโมง และควรเก็บในตู้เย็นตลอดเวลาระหว่างการสกัด
กาแฟสกัดเย็นเหมาะสำหรับผู้ที่มีโรคกรดไหลย้อนหรือไม่?
กาแฟสกัดเย็นมีกรดน้อยกว่ากาแฟร้อนธรรมดา จึงอาจเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหากรดไหลย้อนมากกว่า อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษาแพทย์ก่อนดื่มเสมอ เพราะแต่ละคนมีอาการและความรุนแรงที่แตกต่างกัน และอาจต้องหลีกเลี่ยงคาเฟอีนทั้งหมด
เมื่อกรองกากกาแฟออกจากกาแฟสกัดเย็นแล้ว กากกาแฟสามารถนำไปใช้ประโยชน์อื่นได้หรือไม่?
กากกาแฟจากการสกัดเย็นสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง เช่น ใช้เป็นปุ๋ยหมักสำหรับต้นไม้, ขัดผิวแบบธรรมชาติ, หรือดับกลิ่นในตู้เย็น เนื่องจากยังคงมีสารประโยชน์และคุณสมบัติในการดูดซับกลิ่นอยู่