Skip to content
Header
You are on the main content


มอคค่า (Mocha) คืออะไร พร้อมวิธีชงยังไงให้อร่อยเหมือนที่ร้าน



มอคค่า (Mocha) คืออะไร พร้อมวิธีชงยังไง

Mocha เป็นเครื่องดื่มกาแฟยอดนิยมที่ผสมผสานระหว่าง กาแฟเอสเพรสโซ่ นมอุ่น และ ช็อกโกแลต อย่างลงตัว ทำให้ได้รสชาติเข้มข้น หอมหวาน กลมกล่อม เหมาะทั้งสำหรับคอกาแฟและคนรักช็อกโกแลต รวมถึงผู้ที่เพิ่งเริ่มดื่มกาแฟ เพราะรสชาติไม่เข้มจนเกินไป



ต้นกำเนิดของมอคค้ามาจากไหน


คำว่า “มอคค่า (Mocha)” เดิมทีหมายถึง เมล็ดกาแฟอาราบิก้า ที่ปลูกบนภูเขาสูงทางตอนกลางของประเทศเยเมน ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องกลิ่นและรสชาติเหมือนช็อกโกแลตตามธรรมชาติ เมล็ดกาแฟชนิดนี้ถูกส่งออกจากเมืองท่าชื่อ “โมคา (Mocha)” บนชายฝั่งทะเลแดง ซึ่งเป็นศูนย์กลางการค้ากาแฟที่สำคัญในช่วงศตวรรษที่ 15–18


กาแฟมอคค่าจึงกลายเป็นที่นิยมในยุโรปตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 โดยถูกขนานนามว่า “กาแฟสีดำของโมคา” ที่ให้รสเข้มและหอมละมุน



“การผสมผสานระหว่างกาแฟและช็อกโกแลต”


แนวคิดการผสมกาแฟกับช็อกโกแลตมีมานานนับพันปี ย้อนกลับไปถึงชาวแอซเท็กและมายาในอเมริกากลาง ที่ดื่มเครื่องดื่มจากเมล็ดโกโก้และเมล็ดกาแฟบด เรียกว่า “xocolatl” ซึ่งเป็นต้นแบบของมอคค่าในปัจจุบัน


ต่อมาในยุโรปช่วงศตวรรษที่ 17 เครื่องดื่มกาแฟผสมช็อกโกแลตได้รับความนิยมมากขึ้น โดยนิยมดื่ม กาแฟดำของโมคา ร่วมกับช็อกโกแลตเหลวหรือผงโกโก้ เป็นจุดเริ่มต้นของ “Caffè Mocha” ที่เรารู้จักกันในปัจจุบัน



กาแฟมอคค่ามีรสชาติอย่างไร


กาแฟมอคค้ามีรสชาติที่ นุ่มละมุน ดื่มง่าย และมีกลิ่นหอมของช็อกโกแลตผสมกับกาแฟอย่างลงตัว รสชาติของกาแฟจะไม่เข้มจนเกินไป แต่ยังคงสัมผัสถึงรสขมอ่อน ๆ จากเอสเพรสโซ่ และความหอมหวานของโกโก้ นอกจากนี้ยังมีเนื้อนมที่ช่วยเพิ่มความนุ่มละมุน ทำให้มอคค่าเป็นหนึ่งในเมนูโปรดของคอกาแฟทั่วโลก โดยเฉพาะ ผู้ที่เริ่มดื่มกาแฟใหม่ ๆ หรือผู้ที่ชอบกาแฟรสหวานกลมกล่อม



วิธีชงมอคค่าให้อร่อยเหมือนที่ร้าน


การชงมอคค่าให้อร่อยนั้นไม่ยาก เพียงแค่เลือกวัตถุดิบที่ดีและรักษาสัดส่วนให้เหมาะสม คุณสามารถทำมอคค่าได้ทั้งแบบร้อนและเย็น ดังนี้:


ส่วนผสม


  • เอสเพรสโซ่ 1 ช็อต (ประมาณ 30 มิลลิลิตร)
  • ช็อกโกแลตซอสหรือผงโกโก้ 1–2 ช้อนชา (ตามความชอบ)
  • นมสดอุ่น 150 มิลลิลิตร
  • ฟองนม (สำหรับตกแต่งด้านบน)
  • วิปครีมหรือผงโกโก้โรยหน้า (ไม่บังคับ)

วิธีชง

  1. ชงเอสเพรสโซ่ 1 ช็อต เตรียมไว้ในแก้ว
  2. ใส่ช็อกโกแลตซอสหรือผงโกโก้ลงไป แล้วคนให้เข้ากันจนละลาย
  3. เทนมอุ่นตามลงไป จากนั้นคนเบา ๆ ให้ส่วนผสมเข้ากัน
  4. ปิดท้ายด้วยฟองนมหรือวิปครีม และโรยผงโกโก้เล็กน้อยเพื่อเพิ่มกลิ่นหอม

เคล็ดลับ: หากต้องการรสชาติเข้มขึ้น สามารถเพิ่มช็อตเอสเพรสโซ่ได้อีก 1 ช็อต หรือเลือกใช้ช็อกโกแลตแท้แทนผงโกโก้ จะช่วยให้รสชาติหอมละมุนและมีความครีมมี่มากยิ่งขึ้น


สำหรับผู้ที่ใช้เครื่องชงกาแฟแคปซูล เช่น Nespresso ก็สามารถทำมอคค่าได้ง่าย ๆ ที่บ้าน เพียงเลือกแคปซูลรสเข้ม (เช่น เครื่องชงกาแฟแคปซูล หรือ Arpeggio) แล้วเติมช็อกโกแลตและนมอุ่น ก็จะได้มอคค่ารสละมุนเหมือนดื่มที่คาเฟ่



Mocha สรุปใช้โกโก้ หรือ ช็อคโกแลต

กาแฟมอคค่า สรุปใช้โกโก้ หรือ ช็อคโกแลต?


เมนู มอคค่า (Mocha) มักใช้ ช็อกโกแลต เป็นหลัก ไม่ว่าจะในรูปแบบของ ซอสช็อกโกแลต หรือ ช็อกโกแลตแท้ เพื่อให้ได้รสชาติที่หวานมันและกลิ่นหอมเข้มข้นกว่าการใช้โกโก้เพียว ๆ เพราะโกโก้นั้นคือผงที่ได้จากเมล็ดโกโก้ที่ผ่านกระบวนการอบแห้งและบด ส่วนช็อกโกแลตจะมีการเติมน้ำตาลและไขมัน ทำให้มีความหวานและเนื้อสัมผัสที่นุ่มละมุนกว่า


การใช้ช็อกโกแลตแท้ในมอคค่าจะช่วยสร้างสมดุลของรสชาติได้อย่างลงตัว ระหว่าง ความขมของกาแฟ และ ความหวานมันของช็อกโกแลต แต่ในบางร้านก็อาจผสมผงโกโก้ลงไปด้วย เพื่อเพิ่มความเข้มข้นและกลิ่นหอมของโกโก้แบบดั้งเดิม หรือเพื่อลดความหวานและต้นทุนการผลิต


สรุปคือ: การเลือกใช้โกโก้หรือช็อกโกแลตไม่มีผิดหรือถูก ขึ้นอยู่กับรสชาติที่คุณชอบ หากต้องการความหวานละมุนให้เลือกช็อกโกแลต แต่ถ้าชอบรสเข้มและกลิ่นโกโก้ชัด ให้เลือกใช้ผงโกโก้แทน


มอคค่าในปัจจุบันเป็นอย่างไร


ปัจจุบันคำว่า “มอคค่า” ไม่ได้หมายถึงเมล็ดกาแฟจากเมืองโมคาในเยเมนอีกต่อไป แต่หมายถึง เครื่องดื่มกาแฟที่ผสมช็อกโกแลต เป็นหลัก โดยสูตรมาตรฐานของมอคค่าในปัจจุบันมักประกอบด้วย เอสเพรสโซ่ 1 ช็อต นมอุ่น และ ซอสช็อกโกแลตหรือผงช็อกโกแลต ตกแต่งด้วยฟองนมหรือวิปครีมเพื่อเพิ่มความหอมมัน


บางสูตรอาจใส่ท็อปปิ้งต่าง ๆ เช่น วิปครีม, ผงโกโก้, ช็อกโกแลตชิพ หรือคาราเมลซอส เพื่อเพิ่มความน่าดื่มและรสชาติที่หลากหลายยิ่งขึ้น


เมนูมอคค่า หลากหลายสไตล์มีอะไรบ้าง


  • ไวท์มอคค่า (White Mocha) ใช้ช็อกโกแลตขาวแทนช็อกโกแลตดำ ให้รสหวานละมุนและเนื้อนุ่มมากกว่า เหมาะกับคนที่ไม่ชอบรสขมของโกโก้
  • มอคค่าคาราเมล (Caramel Mocha) เพิ่มซอสคาราเมลลงไปเพื่อเพิ่มความหวานหอมและกลิ่นคาราเมลเข้ากับรสกาแฟและช็อกโกแลตอย่างลงตัว
  • มอคค่ามินต์ (Mint Mocha) เติมกลิ่นและรสมินต์ (สะระแหน่) เพิ่มความสดชื่น หอมหวานเย็น เหมาะกับช่วงเทศกาลหรือหน้าร้อน
  • วีแกนมอคค่า (Vegan Mocha) สำหรับสายสุขภาพหรือผู้ที่ไม่ทานผลิตภัณฑ์จากนม สามารถใช้นมทางเลือก เช่น นมอัลมอนด์, นมข้าวโอ๊ต, นมมะพร้าว และเลือกใช้ ดาร์กช็อกโกแลต (Dark Chocolate) ที่ไม่มีส่วนผสมของนม เพื่อให้เข้ากับไลฟ์สไตล์มังสวิรัติ

ไม่ว่าจะเป็นมอคค่าแบบไหน จุดเด่นของเครื่องดื่มชนิดนี้คือ รสชาติที่ลงตัวระหว่างกาแฟเข้มกับช็อกโกแลตหวานมัน ซึ่งทำให้มอคค่าเป็นหนึ่งในเมนูกาแฟที่ครองใจคอกาแฟทั่วโลกได้อย่างยาวนาน



วิธีทำเมนูมอคค่าเย็นง่ายๆ




วิธีทำเมนู Mocha เย็นง่ายๆ

อยากดื่ม มอคค่าเย็น แบบฟิน ๆ โดยไม่ต้องออกไปคาเฟ่? ซาหริ่มมีวิธีง่าย ๆ มาฝาก รับรองว่าทำเองได้ที่บ้าน อร่อยไม่แพ้ร้านดังแน่นอน!


อุปกรณ์และส่วนผสม


  1. 1. แก้วใสสวย ๆ (ซาหริ่มแนะนำแก้ว Reveal Cold Coffee เพราะใสและบาง เหมาะกับกาแฟเย็นสุด ๆ)
  2. 2. ช็อกโกแลตซอส 30 มล. (ประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ)
  3. 3. น้ำแข็ง
  4. 4. นมเย็น 120 มล. (สามารถใช้นมที่ปั่นเย็นในเครื่อง Aeroccino3 เพื่อให้ได้ฟองนมนุ่ม ๆ)
  5. 5. กาแฟ เอสเพรสโซ่ 60 มล. หรือ 2 ช็อต (ซาหริ่มใช้ VERTUO Barista Creation Bianco Piccolo)
  6. 6. ผงโกโก้ สำหรับโรยหน้า (ตามชอบ)
  7. 7. วิปปิ้งครีม สำหรับตกแต่ง (ตามชอบ)

วิธีทำ


  1. 1. บีบช็อกโกแลตซอสลงในแก้ว วาดลวดลายตามชอบ เพิ่มความน่าดื่มและสวยงาม
  2. 2. ใส่น้ำแข็งครึ่งแก้ว แล้วเทนมเย็น 120 มล. ลงไป
  3. 3. ค่อย ๆ เทกาแฟเอสเพรสโซ่ลงบนชั้นนม ให้เห็นเลเยอร์กาแฟสวย ๆ
  4. 4. คลุกเคล้าเบา ๆ ให้ส่วนผสมเข้ากัน
  5. 5. แต่งหน้าด้วยวิปครีม และโรยผงโกโก้เล็กน้อย เพื่อเพิ่มกลิ่นหอมและความละมุน
  6. 6. เพียงเท่านี้ก็ได้มอคค่าเย็นอร่อย ๆ ไว้ดื่มชิล ๆ กับคนรู้ใจแล้ว!

เคล็ดลับความอร่อย


  • 1. ปรับปริมาณช็อกโกแลตซอสได้ตามความชอบ หากชอบหวานให้เพิ่มได้อีกเล็กน้อย
  • 2. สำหรับผู้ที่แพ้นมวัว สามารถใช้นมอัลมอนด์ หรือนมถั่วเหลืองแทนได้
  • 3. อยากได้รสเข้มขึ้น? ลองผสมกาแฟกับช็อกโกแลตซอสก่อนเติมนมและน้ำแข็ง จะช่วยให้รสชาติเข้มข้นและกลมกล่อมขึ้น
  • 4. หากไม่มีเครื่องชงกาแฟเอสเพรสโซ่ สามารถใช้กาแฟเข้มข้นจาก มอคค่าพอต หรือ ดริปกาแฟ แทนได้เช่นกัน

เสิร์ฟพร้อมของหวานเบา ๆ อย่างครัวซองต์หรือบราวนี่ รับรองว่าเป็น มอคค่าเย็นแก้วโปรดที่อร่อยไม่แพ้คาเฟ่ แน่นอน!


วิธีทำเมนูมอคค่าร้อนง่ายๆ




วิธีทำเมนู Mocha ร้อนง่ายๆ

มอคค่าร้อน เป็นเครื่องดื่มที่ให้ความอบอุ่นและผ่อนคลาย ด้วยการผสมผสานระหว่างกาแฟเอสเพรสโซ่ ช็อกโกแลต และนมร้อน รสชาติเข้มข้น กลมกล่อม เหมาะสำหรับวันหนาวหรือช่วงเวลาที่ต้องการความสบายใจ



อุปกรณ์และส่วนผสม


  1. 1. แคปซูลกาแฟ Nespresso Barista Creation Scuro 2 แคปซูล (สกัดได้ 2 ช็อต Espresso หรือประมาณ 60 มล.)
  2. 2. ช็อกโกแลตซอส 2 ช้อนโต๊ะ หรือช็อกโกแลตชิป 1 ช้อนโต๊ะ
  3. 3. นมสด 120 มิลลิลิตร
  4. 4. วิปปิ้งครีม (ตามชอบ)
  5. 5. ผงโกโก้ สำหรับโรยหน้า (ตามชอบ)

วิธีทำ


  1. 1. ชงกาแฟด้วยเครื่อง Nespresso VERTUO หรือเครื่องชงกาแฟเอสเพรสโซ่ทั่วไป ให้ได้กาแฟประมาณ 60 มิลลิลิตร
  2. 2. ใส่ช็อกโกแลตซอสหรือช็อกโกแลตชิปลงในกาแฟขณะที่ยังร้อน แล้วคนให้ละลายจนเข้ากัน
  3. 3. อุ่นนมสดในเครื่องตีฟองนม Aeroccino 3 หรือในไมโครเวฟประมาณ 2-3 นาที
  4. 4. เทนมอุ่นลงในส่วนผสมกาแฟและช็อกโกแลต จากนั้นคนให้เข้ากันจนเนียน
  5. 5. ตกแต่งด้วยวิปครีมด้านบน และโรยผงโกโก้เล็กน้อยเพื่อเพิ่มความหอมและสวยงาม

เคล็ดลับความอร่อย


  • 1. เลือกใช้ช็อกโกแลตซอสได้ตามความชอบ ช็อกโกแลตเข้มหรือช็อกโกแลตนม จะให้รสชาติแตกต่างกันเล็กน้อย
  • 2. สามารถตีฟองนมให้เนียนฟู เพื่อเพิ่มความนุ่มละมุนของมอคค่าร้อน
  • 3. อยากได้รสชาติเข้มข้นขึ้น? ลองผสมกาแฟกับช็อกโกแลตซอสก่อนเติมนม เพื่อให้ได้รสที่ชัดเจนขึ้น
  • 4. หากไม่มีเครื่อง Nespresso สามารถใช้กาแฟเข้มข้นจาก มอคค่าพอต หรือ กาแฟดริป แทนได้เช่นกัน


เคล็ดลับชงมอคค่าให้อร่อย ขึ้นอยู่กับอะไรบ้าง?


  1. 1. กาแฟ (Espresso) หัวใจสำคัญของมอคค่าคือเอสเพรสโซ่ที่มีคาแรคเตอร์ชัดเจน ควรเลือกเมล็ดคั่วกลางถึงคั่วเข้มที่สดใหม่ เพื่อให้ได้รสเข้ม มีบอดี้แน่น และไม่เปรี้ยวจนเกินไป หากกาแฟอ่อนหรือรสชาติเบาเกินไป ช็อกโกแลตจะกลบรสกาแฟจนหมด ทำให้มอคค่าเสียสมดุลและขาดเอกลักษณ์
  2. 2. ช็อกโกแลต (Chocolate & Chocolate Sauce) เลือกดาร์กช็อกโกแลตคุณภาพดี หรือซอสช็อกโกแลตเข้มข้นที่ไม่หวานจนเกินไป หากใช้ผงโกโก้ แนะนำให้เลือกแบบ Dutch Process ที่มีความกลมกล่อม ไม่เปรี้ยวฝาด การเลือกช็อกโกแลตที่ดีจะช่วยให้มอคค่ามีรสชาตินุ่มลึกและมีมิติ
  3. 3. นม (Milk & Milk Foam) นมที่เหมาะสมควรมีไขมันพอเหมาะ เช่น Whole Milk หรือนมทางเลือกสูตร Barista ที่ตีฟองได้ดี ฟองนมควรเนียนละเอียด ไม่หยาบหรือเหลวเกินไป อุณหภูมิที่เหมาะสมในการสตีมนมอยู่ที่ 60–65°C เพื่อคงความครีมมี่โดยไม่ทำให้นมไหม้
  4. 4. ลำดับขั้นตอน เริ่มจากชงเอสเพรสโซ่ให้ร้อน แล้วละลายช็อกโกแลตให้เข้ากันก่อน จากนั้นค่อยเติมนมลงไปอย่างนุ่มนวล ลำดับนี้มีความสำคัญมาก เพราะหากทำผิดจังหวะ รสชาติอาจแยกชั้นหรือไม่สมดุล ส่งผลให้มอคค่าขาดความกลมกล่อม
  5. 5. เครื่องชงกาแฟคุณภาพ เครื่องชงและเครื่องบดที่มีแรงดันและความแม่นยำสม่ำเสมอจะช่วยดึงรสกาแฟออกมาได้เต็มที่ ขณะเดียวกันเครื่องสตีมนมที่ดีจะทำให้นมตีฟองได้เนียนนุ่ม สร้างสัมผัสแบบ “บาริสตา” ได้ในบ้าน


มอคค่าแตกต่างจากเมนูกาแฟอื่น ๆ อย่างไร


มอคค่า โดดเด่นด้วยการผสมผสานรสชาติของ กาแฟเอสเพรสโซ่ และ ช็อกโกแลต เข้าด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นซอสช็อกโกแลต ช็อกโกแลตชิป หรือไซรัป เมื่อผสมกับนมสดจะได้เครื่องดื่มที่มีรสหวานมัน กลมกล่อม และมีกลิ่นหอมละมุนแต่ยังคงความเข้มของกาแฟไว้ได้อย่างลงตัว


ด้วยความสมดุลระหว่างรสขมของกาแฟและความหวานของช็อกโกแลต มอคค่า จึงเหมาะสำหรับทั้งคอกาแฟและผู้เริ่มต้น เพราะดื่มง่ายกว่าเมนูกาแฟดำ อีกทั้งยังสามารถปรับสูตรให้เป็นแบบร้อน เย็น หรือปั่นได้ตามความชอบ เรียกได้ว่าเป็นกาแฟที่ตอบโจทย์ได้ทุกอารมณ์และทุกฤดูกาล



มอคค่าต่างจากลาเต้อย่างไร




มอคค่าต่างจากลาเต้อย่างไร

แม้ว่ามอคค่าและลาเต้จะเป็นเมนูยอดนิยมที่มี เอสเพรสโซ่ และ นม เป็นส่วนประกอบหลักเหมือนกัน แต่ทั้งสองเมนูกลับให้ประสบการณ์รสชาติที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน


ลาเต้ (Latte) โดดเด่นด้วยความเรียบง่ายและความนุ่มละมุน โดยประกอบด้วยเอสเพรสโซ่และนมอุ่นในอัตราส่วนที่นมมากกว่า พร้อมฟองนมบาง ๆ ด้านบน รสชาติของลาเต้จึงจะออกมา ละมุน หอมมัน และนมเด่น เหมาะกับคนที่ชอบกาแฟรสเบา


ส่วน มอคค่า (Mocha) จะเพิ่มมิติของรสชาติด้วย ช็อกโกแลต ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบซอสหรือผง ทำให้เครื่องดื่มมีความหวานมันและเข้มข้นมากขึ้น เกิดการผสมผสานระหว่างความขมของกาแฟ ความหวานของช็อกโกแลต และความนุ่มของนมได้อย่างลงตัว


ลาเต้ จะให้รสชาติเนียนนุ่ม ดื่มง่าย เน้นกลิ่นนม ส่วน มอคค่า จะมีความหวานเข้มและซับซ้อน เหมาะสำหรับคนที่ต้องการสัมผัสความหอมของกาแฟควบคู่ไปกับรสช็อกโกแลตสุดฟิน


คาปูชิโน่ กับ มอคค่า ต่างกันยังไง



คาปูชิโน่จะมีฟองนมอยู่ด้านบนเสมอ

แม้ว่า คาปูชิโน่ และ มอคค่า จะมี เอสเพรสโซ่ เป็นหัวใจหลักเหมือนกัน แต่ทั้งสองเมนูกลับให้รสชาติและประสบการณ์การดื่มที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนครับ


คาปูชิโน่ เป็นกาแฟที่มีความเข้มข้น กลมกล่อม หอมกลิ่นกาแฟ โดยเกิดจากการผสม เอสเพรสโซ่ นมอุ่น และฟองนม ในอัตราส่วน 1:1:1 ฟองนมที่อยู่ด้านบนสุดของคาปูชิโน่ช่วยตัดรสขมของกาแฟ ให้ความรู้สึกนุ่มละมุนและดื่มง่ายขึ้น อีกทั้งยังเป็นเอกลักษณ์ที่ทำให้คาปูชิโน่ดูน่าดื่มและสวยงาม


ส่วน มอคค่า เป็นกาแฟที่ผสม เอสเพรสโซ่ นมอุ่น และช็อกโกแลต (อาจอยู่ในรูปซอสหรือผง) ช็อกโกแลตจะช่วยเพิ่มรสหวานและความหอมละมุนให้กับกาแฟ ทำให้มอคค่ามีรสชาติที่นุ่มนวล กลมกล่อม และเข้าถึงได้ง่ายกว่าสำหรับคนที่ไม่ชอบกาแฟเข้มมากนัก


เมื่อเทียบในด้านสัดส่วน คาปูชิโน่ ใช้เอสเพรสโซ่ 1/3 นม 1/3 และฟองนม 1/3 ขณะที่ มอคค่า จะมีเอสเพรสโซ่ประมาณครึ่งแก้ว ผสมนมและช็อกโกแลตในสัดส่วนที่เท่ากัน เพื่อให้ได้ความสมดุลระหว่างรสขมและหวาน


โดยรวมแล้ว คาปูชิโน่ จะให้สัมผัสของกาแฟเข้มและฟองนมหนา ส่วน มอคค่า จะเด่นเรื่องความหอมหวานของช็อกโกแลตและความละมุนของนม เหมาะกับคนที่ชอบกาแฟรสละมุนมีมิติ



คาปูชิโน่ กับ มอคค่า ต่างกันยังไง


มอคค่า (Mocha) เป็นกาแฟที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เพราะเป็นการผสมผสานระหว่าง เอสเพรสโซ่ นม และช็อกโกแลต ทำให้ได้รสชาติที่ทั้ง เข้ม หอม และหวานมัน อยู่ในแก้วเดียว แตกต่างจากกาแฟเมนูอื่นที่มักเน้นรสเข้มหรือความนุ่มของนมเพียงด้านใดด้านหนึ่ง ความต่างของมอคค่าชัดเจนตรงที่ มีรสช็อกโกแลตอยู่ด้วย ซึ่งเพิ่มความละมุนและกลิ่นหอมหวาน ทำให้ดื่มง่าย เหมาะกับคนที่ไม่ชอบกาแฟขมเกินไป หรือชอบรสชาติคล้ายโกโก้แต่ยังอยากได้ความหอมของกาแฟ



ประเภทกาแฟ ส่วนผสมหลัก รสชาติหลัก ปริมาณนม ความเข้มของกาแฟ จุดเด่นเฉพาะตัว
มอคค่า (Mocha) เอสเพรสโซ่ + ช็อกโกแลต (ผงหรือซอส) + นม หอมหวาน มัน กลมกล่อม มีรสช็อกโกแลตชัดเจน มากปานกลาง ปานกลาง ผสมระหว่างกาแฟและช็อกโกแลต เหมาะกับคนที่ชอบหวาน
เอสเพรสโซ่ (Espresso) กาแฟบดละเอียด ชงด้วยแรงดันน้ำร้อนสูง เข้ม ขม กลิ่นหอมแรง ไม่มี สูงมาก รสเข้มที่สุด ใช้เป็นพื้นฐานของกาแฟหลายชนิด
ลาเต้ (Latte) เอสเพรสโซ่ + นมร้อน + ฟองนมบาง นุ่ม ละมุน หอมกลิ่นนม มาก ปานกลางถึงอ่อน รสนุ่ม เหมาะกับคนที่ชอบกาแฟเบา ๆ
คาปูชิโน่ (Cappuccino) เอสเพรสโซ่ + นมร้อน + ฟองนมหนา เข้มขึ้นกว่าลาเต้ แต่ยังนุ่ม ปานกลาง ปานกลางถึงสูง ฟองนมหนา มีสัมผัสนุ่มฟูบนปาก
อเมริกาโน่ (Americano) เอสเพรสโซ่ + น้ำร้อน เข้มแต่ไม่ขมจัด กลิ่นชัด ไม่มี ปานกลางถึงสูง เข้มแบบเบากว่าเอสเพรสโซ่ เหมาะกับคนชอบกาแฟไม่ใส่นม


มอคค่าเหมาะกับใคร


มอคค่า เป็นเครื่องดื่มที่เหมาะกับคนหลายกลุ่ม โดยเฉพาะ:


  • สายหวาน – เพราะมอคค่ามีส่วนผสมของนมและช็อกโกแลตที่ให้ความหวานละมุน ดื่มง่าย และเข้าถึงได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย
  • สายชิล – เหมาะสำหรับวันที่ต้องการความผ่อนคลาย มอคค่ามีรสคล้ายช็อกโกแลตร้อน ให้ความอบอุ่นและความสบายใจ เหมาะกับการดื่มตอนเช้าหรือยามบ่าย

หากอยากทำมอคค่าดื่มเองที่บ้าน ก็สามารถทำได้ง่ายมาก เพียงมีเครื่องชงกาแฟแคปซูลและแคปซูลกาแฟของ Nespresso ก็สามารถสร้างสรรค์มอคค่าในสไตล์ของตัวเองได้เลย


สำหรับใครที่อยากลองทำมอคค่าด้วยแคปซูล ผม ซาหริ่ม จาก Nespresso Boutique เซ็นทรัลลาดพร้าว ขอแนะนำว่า:


  • สาย ORIGINAL Line – แนะนำ Barista Creation Scuro กาแฟอาราบิก้า 100% จากโคลอมเบียและเอธิโอเปีย ผ่านเทคนิคการแยกคั่ว ให้รสชาติเข้ม กลมกล่อม เข้ากันได้ดีกับนม
  • สาย VERTUO Line – แนะนำ Bianco Piccolo กาแฟอาราบิก้าที่คั่วแบบเฉพาะ เพื่อให้ได้คาแรกเตอร์ที่กลมกล่อมเมื่อผสมกับนม เหมาะสำหรับเมนูมอคค่าโดยเฉพาะ

ไม่ว่าจะเป็นการจิบมอคค่ากับคนพิเศษในเช้าวันหยุด หรือมอบกาแฟแก้วนี้ให้ใครบางคนในวันสำคัญ มอคค่า ก็สามารถเติมเต็มช่วงเวลานั้นให้หอมหวานและอบอุ่นได้อย่างลงตัว


บทความโดย คุณซาหริ่ม – Nespresso Boutique เซ็นทรัลลาดพร้าว



คำถามที่พบบ่อย

เมล็ดกาแฟสายพันธุ์ไหนเหมาะกับการทำมอคค่ามากที่สุด?
แนะนำใช้เมล็ดอาราบิก้าคั่วกลางถึงเข้ม เพราะให้กลิ่นช็อกโกแลตธรรมชาติและรสกลมกล่อม
ควรใช้ช็อกโกแลตแบบไหนดีให้รสมอคค่าเข้มข้น?
ใช้ดาร์กช็อกโกแลตซอส หรือโกโก้แท้ 70% ขึ้นไป จะให้รสเข้มและไม่หวานเลี่ยน
การใช้นมอัลมอนด์หรือข้าวโอ๊ตแทนนมวัวส่งผลอย่างไร?
ให้รสหวานธรรมชาติ นุ่มเบา และมีกลิ่นเฉพาะตัว เหมาะกับคนแพ้นมหรือสายเฮลตี้
มอคค่ามีคาเฟอีนมากไหม?
คาเฟอีนพอ ๆ กับลาเต้ ประมาณ 60–90 มิลลิกรัมต่อแก้ว ขึ้นอยู่กับปริมาณเอสเพรสโซ
ถ้าอยากลดน้ำตาลในมอคค่า ควรทำอย่างไร?
ใช้โกโก้แท้ไม่ผสมน้ำตาล หรือเปลี่ยนเป็นไซรัปหญ้าหวานแทนช็อกโกแลตซอส