Skip to content
Header
You are on the main content


ลาเต้อาร์ต (Latte Art) คืออะไร วิธีทำลาเต้อาร์ตง่าย ๆ



ลาเต้อาร์ต คือกาแฟเอสเพรสโซ่ผสมนม

กาแฟลาเต้ (Latte) คือกาแฟเอสเพรสโซ่ผสมนม มาจากภาษาอิตาเลียนซึ่งแปลตรงตัวได้ว่า “กาแฟนม” เพียงจิบกาแฟลาเต้ที่หอมหวานและลิ้มรสเอสเพรสโซช็อตที่ผสมผสานเข้ากับนมได้อย่างลงตัว คุณก็สามารถดื่มด่ำและสัมผัสบรรยากาศชวนฝันของอิตาลีได้ ไม่น่าแปลกใจเลยที่ลาเต้จะเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมในยามเช้าของใครหลาย ๆ คน


ลาเต้อาร์ต (Latte Art) คืออะไร?

ลาเต้อาร์ต (Latte Art) หรือการแต่งหน้าฟองนมบนแก้วกาแฟ เกิดจากส่วนผสมของช็อตเอสเพรสโซและโฟมนมในอุณหภูมิที่พอเหมาะ จนสามารถวาดลวดลายบนกาแฟได้ตามรูปแบบการดีไซน์และการสร้างสรรค์ ซึ่งการทำลาเต้อาร์ตออกมาสวยงามในแต่ละแก้ว จะแสดงถึงความทุ่มเทและใส่ใจของผู้ทำ ช่วยสร้างความประทับใจให้กับผู้ดื่มกาแฟ


ลาเต้อาร์ตมีที่มาจากอะไร?

มีบันทึกว่าประเทศอิตาลีคือแหล่งกำเนิดเอสเพรสโซและวัฒนธรรมการดื่มกาแฟนม แต่ลาเต้อาร์ตในเชิงศิลปะเริ่มพัฒนาขึ้นจริงจังในช่วงทศวรรษ 1980–1990 ในสหรัฐอเมริกา (ซีแอตเทิล) โดบาริสต้ายชื่อ David Schomer จากร้าน Espresso Vivace เป็นผู้บุกเบิกการพัฒนาเทคนิคสตีมนมให้ได้ไมโครโฟม และทดลองเทลายอย่างจริงจัง ขณะเดียวกันในอิตาลีและยุโรปก็มีการทดลองเช่นกัน โดยลายที่นิยมแรก ๆ ได้แก่ หัวใจ (Heart) และโรเซตต้า (Rosetta)


เมื่อกาแฟสเปเชียลตี้ (Specialty Coffee) เริ่มเป็นที่นิยมในช่วงปี 2000 ลาเต้อาร์ตก็กลายเป็นสัญลักษณ์ของ “บาริสต้ามืออาชีพ” และถูกใช้เป็นทั้งศิลปะการตกแต่งและเครื่องมือแข่งขันในเวทีบาริสต้าระดับโลก เช่น World Latte Art Championship


องค์ประกอบสำคัญของลาเต้อาร์ตมีอะไรบ้าง?


1. ช็อตเอสเพรสโซ่ (Espresso Shot)

ต้องเป็นช็อตที่สกัดได้สมดุล มี ครีมา (Crema) สวยและหนาพอสมควร ครีมาจะทำหน้าที่เหมือน “ผืนผ้าใบ” สำหรับวาดลาย หากเอสเพรสโซสกัดไม่ดี (ครีมาน้อยหรือแตกเร็ว) ลวดลายจะไม่ชัด


2. ฟองนม (Milk Microfoam)

ต้องเป็นไมโครโฟม (ฟองเล็กละเอียด) เนียนเหมือนกำมะหยี่ ฟองที่ดีจะผสมกลมกลืนกับนมโดยไม่แยกชั้น เทแล้วได้เนื้อครีมสีขาวคมตัดกับครีมา หากฟองหยาบหรือแยกชั้น ลายจะไม่เนียนและไม่คมชัด


3. ทักษะการเท (Pouring Technique)

ต้องควบคุมตำแหน่ง ระยะ และจังหวะของการเท เริ่มจากเทสูงให้นมจมลงไปผสมกับกาแฟ แล้วค่อยลดระดับลงใกล้ผิวแก้วเพื่อสร้างลวดลาย การควบคุมการแกว่งและแรงมือคือกุญแจสำคัญในการสร้างลาย เช่น หัวใจ (Heart), โรเซตต้า (Rosetta), ทิวลิป (Tulip)



ลาเต้อาร์ตที่ดีประกอบด้วยคุณภาพของกาแฟ ฟองนม และทักษะการเท


ลาเต้อาร์ตที่ดี ต้องมีลักษณะอย่างไร?

ลาเต้อาร์ตที่ดี ไม่ได้วัดแค่ความสวยงาม แต่ต้องประกอบด้วยคุณภาพของกาแฟ ฟองนม และทักษะการเท


1. ความคมชัด (Clarity)

ลวดลายชัดเจน เส้นไม่แตกหรือเบลอ มีการตัดกันที่ดีระหว่างครีมา (สีทองน้ำตาล) กับฟองนม (สีขาว)


2. ความสมดุล (Balance)

ลายอยู่กึ่งกลางแก้ว ไม่เอียงหรือเบี้ยว ขนาดของลายเหมาะสมกับแก้ว ไม่เล็กหรือใหญ่เกินไป


3. ความคอนทราสต์ (Contrast)

ครีมาต้องไม่แตกหรือหายไป เพื่อให้สีพื้นเข้มตัดกับฟองนมได้สวย ฟองนมต้องเนียนละเอียด (microfoam) เพื่อให้ลายเด่นและนุ่มตา


4. ความเนียนของฟองนม (Texture)

ฟองนมเนียนเหมือนกำมะหยี่ ไม่มีฟองใหญ่หรือหยาบ ผิวหน้ากาแฟเรียบ มันวาว และดูสดใหม่


5. ความสมบูรณ์ของลาย (Symmetry & Completeness)

ลายหัวใจ โรเซตต้า หรือทิวลิป ควรมีความสมมาตร ไม่ขาดตอน ส่วนโค้ง เส้น หรือใบต้องต่อเนื่องสวยงาม


6. รสชาติต้องดีควบคู่ (Taste Integration)

ไม่ใช่แค่สวย แต่ต้องทำจากเอสเพรสโซที่สกัดสมบูรณ์ และนมที่สตีมได้อุณหภูมิถูกต้อง (~60–65°C) เพื่อให้รสกลมกล่อม


ทำลาเต้อาร์ต (Latte Art) ได้กี่วิธี อะไรบ้าง?

การทำลาเต้อาร์ตสามารถทำได้ 2 วิธีหลักดังนี้


1. การเทอิสระ (Free Pouring)

เทคนิคการเทนมจากพิชเชอร์ (Pitcher) ลงถ้วย ต้องอาศัยความนิ่งและความแม่นยำในการควบคุมข้อมือและจังหวะ เพื่อให้ได้ลวดลายตามต้องการ


2. การแกะ (Etching)

เทคนิคที่ใช้อุปกรณ์ช่วย เช่น ไม้จิ้มฟัน เข็ม หรือช้อน เพื่อลาก แกะ เขี่ย หรือหยอดนมสร้างสรรค์ลวดลาย เหมาะสำหรับมือใหม่ เพราะควบคุมรายละเอียดได้ง่ายกว่าการเทอิสระ



การเตรียมฟองนมสำหรับทำลาเต้อาร์ต


ขั้นตอนการเตรียมฟองนมสำหรับทำลาเต้อาร์ตเป็นอย่างไร?


1. เลือกนมที่เหมาะสม

แนะนำใช้นมวัว Full Fat หรือ Barista Edition (ทั้งนมวัวและนมพืช) เพราะมีโปรตีนและไขมันที่ช่วยให้เกิดฟองเนียนและอยู่ตัว


2. เตรียมเหยือกสตีม (Milk Pitcher)

เทนมเย็นประมาณครึ่งเหยือก การใช้นมเย็นช่วยให้นมมีเวลารับอากาศและควบคุมฟองได้ดีกว่า


3. วางก้านสตีมในตำแหน่งที่ถูกต้อง

จุ่มปลายก้านสตีมให้อยู่ใต้ผิวนมเล็กน้อย เอียงเหยือกเล็กน้อยเพื่อให้นมเกิดการหมุนวน (whirlpool motion)


4. ดึงอากาศ (Stretching Phase)

เปิดไอน้ำเต็มกำลัง ปรับก้านให้อากาศเข้ามาเป็นช่วง ๆ ได้ยินเสียง “ชิ๊ ๆ เบา ๆ” ใส่อากาศเฉพาะช่วงแรกตอนที่นมยังเย็น (~10–20°C)


5. ผสมและทำให้เนียน (Texturing Phase)

เมื่อผิวเหยือกเริ่มอุ่น (~37–40°C) ให้จุ่มก้านลึกขึ้นเล็กน้อย ปล่อยให้นมหมุนวนต่อเนื่อง เพื่อแตกฟองใหญ่และทำให้เนื้อนมเนียนละเอียด


6. หยุดสตีมเมื่อถึงอุณหภูมิที่เหมาะสม

ที่ประมาณ 60–65°C ไม่ควรเกิน 70°C เพราะนมจะเสียรสชาติและมีกลิ่นไหม้


7. เคาะและหมุนเหยือก

เคาะเหยือกเบา ๆ บนโต๊ะเพื่อลดฟองอากาศใหญ่ แล้วหมุนวนเล็กน้อยให้นมและฟองเข้ากันจนได้เนื้อสัมผัสเนียนเหมือนกำมะหยี่ (Microfoam)


8. พร้อมสำหรับลาเต้อาร์ต

นมที่ดีสำหรับลาเต้อาร์ตควรเนื้อเนียน ลื่น ไม่แยกชั้น เมื่อเทลงบนเอสเพรสโซ่จะควบคุมทิศทางและสร้างลวดลายได้ง่าย



การเตรียมฟองนมด้วย Aeroccino 3


ทำลาเต้อาร์ต (Latte Art) แบบไม่มีเครื่องสตีมนมได้อย่างไร?

วิธีชงลาเต้คล้ายกับคาปูชิโน่ แต่ใช้นมมากกว่าและแก้วใหญ่กว่า หากไม่มี “ก้านสตีมนม” คุณยังทำลาเต้อาร์ตได้ด้วยการใช้เครื่องตีฟองนม Aeroccino3 หรืออุปกรณ์ทำฟองนมแบบง่ายที่บ้าน แล้วเทโฟมนมลงบนเอสเพรสโซเพื่อสร้างลาย


ชงเอสเพรสโซลงในแก้ว จากนั้นเทโฟมนมประมาณ ~90 มิลลิลิตร ด้านบน ก็พร้อมจิบลาเต้แก้วโปรดได้เลย


อุปกรณ์แบบทำลาเต้อาร์ตเองที่บ้าน

  • 1. กาแฟแคปซูล Espresso 40 มล. (รสชาติใดก็ได้ตามชอบ)
  • 2. นมสดแช่เย็น 40–80 มล.
  • 3. เครื่องตีฟองนม Nespresso Aeroccino (หรืออุปกรณ์ทำฟองนมอื่น ๆ)
  • 4. แก้ว View Large Recipe Glass
  • 5. เครื่องชงกาแฟ Nespresso

ขั้นตอนการชงกาแฟลาเต้มีอะไรบ้าง?

  1. 1. ชงจากแคปซูลลุงโก้ (Lungo) 110 มล.ลงในแก้วที่ต้องการ
  2. 2. ใช้เครื่อง Aeroccino 3 อุ่นและตีฟองนม (สำหรับ Creatista Pro หรือ Lattissima สามารถกดโหมดที่ต้องการได้เลย)
  3. 3. เทโฟมนมอุ่น ๆ ลงบนกาแฟที่เตรียมไว้จนได้อัตราส่วนที่ชอบ
  4. 4. พร้อมเพลิดเพลินกับลาเต้แก้วโปรดของคุณ

ลายลาเต้อาร์ตยอดนิยมมีอะไรบ้าง?


1. Latte Art Tulip



Latte Art Tulip

ส่วนผสมที่ต้องเตรียม

  • 1. กาแฟเอสเพรสโซ่ 1 ช็อต (ประมาณ 30 มล.)
  • 2. นมสดเย็น 150–200 มล. (แนะนำใช้นมโคเต็มมันเนย ฟองเนียน รสเข้ม)

อุปกรณ์

  • 1. เครื่องชงกาแฟเอสเพรสโซ่
  • 2. เหยือกตีฟองนม
  • 3. ก้านสตีม/เครื่องสตีมนม

วิธีทำ

  1. 1. สกัดเอสเพรสโซ่ 1 ช็อต ให้ได้ครีม่าสวย
  2. 2. สตีมนมให้เนียนละเอียดเป็นไมโครโฟม อุณหภูมิประมาณ 60–65°C
  3. 3. เริ่มเทนมช้า ๆ ตรงกลางถ้วย จากสูงเล็กน้อยให้นมจมผสมกับกาแฟ
  4. 4. ลดระดับเหยือกเข้าใกล้ผิวหน้า เทเป็น “จุดกลม” ซ้อนกันขึ้นไปทีละชั้นให้คล้ายกลีบ
  5. 5. ทำซ้ำ 3–4 ครั้ง แล้ว “ยกเหยือกขึ้น” ลากเส้นผ่านกลางเพื่อเชื่อมกลีบให้เป็น Tulip ชัดเจน

2. Latte Art Heart



Latte Art Heart

ส่วนผสมที่ต้องเตรียม

  • 1. แคปซูล Nespresso 1 ช็อต (30 มล.)
  • 2. นมสดเย็น 150–200 มล. (นมโคเต็มมันเนยฟองเนียนที่สุด)

อุปกรณ์

  • 1. เครื่องชงกาแฟเอสเพรสโซ่
  • 2. เหยือกตีฟองนม
  • 3. ก้านสตีมของเครื่องชง หรือเครื่องทำฟองนม Aeroccino

วิธีทำ

  1. 1. กดเอสเพรสโซ่ลงแก้วเป็นฐานลาย
  2. 2. ทำฟองนมให้เป็นไมโครโฟม อุณหภูมิ 60–65°C
  3. 3. เทนมช้า ๆ ตรงกลางถ้วย แล้วลดเหยือกลงใกล้ผิวให้เกิด “วงกลมสีขาว”
  4. 4. เมื่อวงกลมเต็ม ยกเหยือกขึ้นเล็กน้อยแล้ว “ลากเส้นผ่านกลาง” วงกลมจะแตกเป็นรูปหัวใจ

3. Latte Art Rosetta / Leaf



Latte Art Rosetta / Leaf

ส่วนผสมที่ต้องเตรียม

  • 1. เอสเพรสโซ่ Nespresso 1 ช็อต (ประมาณ 30 มล.)
  • 2. นมสดเย็น 150–200 มล. (นมโคเต็มมันเนยช่วยให้ฟองเนียนและคงตัว)

อุปกรณ์

  • 1. เครื่องชงเอสเพรสโซ่
  • 2. เหยือกสำหรับสตีมหรือทำฟองนม
  • 3. ก้านสตีมของเครื่องชง หรือเครื่องทำฟองนม Aeroccino

วิธีทำ

  1. 1. สกัดเอสเพรสโซ่ให้ได้ครีม่าสวย
  2. 2. สตีมนมให้เป็นไมโครโฟม อุณหภูมิ 60–65°C
  3. 3. เริ่มเทจากสูงเล็กน้อยให้นมจม เมื่อแก้วประมาณครึ่งหนึ่ง ลดเหยือกลงใกล้ผิว
  4. 4. แกว่งเหยือกซ้าย–ขวา (wiggle) ต่อเนื่องขณะเทไปด้านหน้า เกิดเส้นใบไม้ทีละชั้น
  5. 5. ถึงปลายแก้ว ยกเหยือกขึ้นเล็กน้อยแล้ว “ตัด” เส้นตรงกลางเพื่อปิดลายใบไม้

4. Latte Art Swan



Latte Art Swan

ส่วนผสมที่ต้องเตรียม

  • 1. กาแฟเอสเพรสโซ่ 1 ช็อต (ประมาณ 30 มล.)
  • 2. นมสดเย็น 150–200 มล. (แนะนำใช้นมโคเต็มมันเนย)

อุปกรณ์

  • 1. เครื่องชงกาแฟเอสเพรสโซ่
  • 2. เหยือกตีฟองนม
  • 3. ก้านสตีม/เครื่องสตีมนม หรือเครื่องทำฟองนม

วิธีทำ

  1. 1. กดเอสเพรสโซ่ลงในแก้ว และสตีมนมเป็นไมโครโฟม 60–65°C
  2. 2. เริ่มด้วยการเท “โรเซตต้าเพียงครึ่งเดียว” ของแก้ว
  3. 3. ยกเหยือกสูงขึ้นเล็กน้อย เทเส้นตรงบาง ๆ ขึ้นด้านบนเป็น “คอหงส์”
  4. 4. ขยับเล็กน้อยเพื่อขึ้น “หัวหงส์” แล้วสะบัดปลายให้เกิด “จะงอยปาก”
  5. 5. ทำ “ปีกหงส์” ด้วยโรเซตต้าสั้น ๆ ด้านข้าง

5. Latte Art Bear



Latte Art Bear

ส่วนผสมที่ต้องเตรียม

  • 1. กาแฟเอสเพรสโซ่ 1 ช็อต (ประมาณ 30 มล.)
  • 2. นมสดเย็น 150–200 มล. (นมโคเต็มมันเนยช่วยให้ฟองเนียน)

อุปกรณ์

  • 1. เครื่องชงกาแฟเอสเพรสโซ่
  • 2. เหยือกตีฟองนม
  • 3. ก้านสตีม/เครื่องสตีมนม และ “ไม้เอทชิ่ง” หรือไม้จิ้มฟัน

วิธีทำ

  1. 1. สกัดเอสเพรสโซ่ 1 ช็อตและสตีมนมเป็นไมโครโฟม 60–65°C
  2. 2. เทนมตรงกลางแก้วคล้ายลายหัวใจ แต่หยุดให้เป็น “วงกลมใหญ่” = ใบหน้าหมี
  3. 3. เทจุดกลมเล็ก 2 จุดด้านบนเป็น “หูหมี”
  4. 4. ใช้ไม้เอทชิ่งจุ่มครีมา/กาแฟ วาด “ตา–จมูก–ปาก” ให้ครบ ก็จะได้หมีน่ารักฟีลคาเฟ่

เคล็ดลับทำลาเต้อาร์ตให้สวย


1. ช็อตเอสเพรสโซ่ต้องดี

สกัดให้ครีมาสีทองเข้ม สม่ำเสมอ หากครีมาบาง/แตกง่าย จะเป็นฐานลายได้ยาก


2. ฟองนมต้องเนียน (Microfoam)

ตีให้เนียนเหมือนกำมะหยี่ ไม่มีฟองใหญ่ เคาะและหมุนเหยือกก่อนเทเพื่อลดฟองหยาบ


3. เททันทีหลังสตีม

อย่าปล่อยให้นมพักจนแยกชั้น นมสดใหม่ควบคุมทิศทางและสร้างลายได้ดีที่สุด


4. ควบคุมความสูงของการเท

เริ่มเทจากสูงเล็กน้อยให้นมจมผสม แล้วลดระดับใกล้ผิวเพื่อ “ขึ้นลาย”


5. จังหวะและแรงมือสม่ำเสมอ

แกว่งเหยือก (wiggle) นุ่มนวล ไม่รีบเกินไป ปิดลายด้วยการยก–ลากเบา ๆ ให้คม


6. เริ่มจากลายพื้นฐาน

ฝึก Heart ก่อน ต่อด้วย Tulip และ Rosetta แล้วค่อยลองลายซับซ้อน

เคล็ดลับเล็ก ๆ: ใช้นม Full Fat หรือ Oat Barista Edition ช่วยให้ฟองนมตีง่าย เนียน และอยู่ตัว เหมาะกับการฝึกมากกว่านมพร่องมันเนยหรือนมพืชทั่วไป


ไม่ว่าคุณจะหลงใหลเสน่ห์ของลาเต้อาร์ตที่สวยงาม หรือแค่อยากลิ้มรสลาเต้แก้วโปรดในทุกเช้า การมีเครื่องชงกาแฟและอุปกรณ์ที่ใช้งานง่ายจะทำให้ทุกอย่างเป็นจริงได้ทันที ด้วย Nespresso คุณสามารถชงลาเต้ได้อย่างมืออาชีพ ไม่ว่าจะเป็นการสตีมนมด้วย Aeroccino ที่ได้ฟองเนียนละเอียดเหมาะสำหรับวาดลาย หรือใช้เครื่อง Creatista / Lattissima ที่ช่วยให้คุณกดเพียงปุ่มเดียวก็ได้ลาเต้พร้อมเสิร์ฟ สะดวก รวดเร็ว และได้รสชาติที่คงที่ทุกครั้ง อย่าปล่อยให้ลาเต้ที่คุณฝันถึงมีแค่ในคาเฟ่ กดเลือกเครื่องชงกาแฟและกาแฟแคปซูล Nespresso วันนี้ แล้วสร้างคาเฟ่ส่วนตัวในบ้านคุณได้ทุกวัน



คำถามที่พบบ่อย

ทำไมลาเต้ถึงเหมาะกับการทำลาเต้อาร์ตมากกว่ากาแฟชนิดอื่น?
เพราะลาเต้ใช้นมในปริมาณมากกว่าคาปูชิโน่หรือแฟลตไวท์ ทำให้ได้ฟองนมเนียนละเอียดที่มีพื้นผิวเหมาะสำหรับการสร้างลวดลายบนกาแฟ เมื่อเจอกับช็อตเอสเพรสโซ่เข้ม ๆ ก็ยิ่งทำให้ลายโดดเด่นสวยงาม
ลาเต้อาร์ตต้องใช้แก้วแบบไหน?
ถ้วยกาแฟเซรามิกขอบกว้าง (150–200 มล.) จะเหมาะที่สุด เพราะช่วยให้การเทนมควบคุมได้ง่าย
ฟองนมสำหรับลาเต้อาร์ตต่างจากฟองนมทั่วไปอย่างไร?
ฟองนมสำหรับลาเต้อาร์ตต้องเนียนละเอียด (microfoam) ไม่มีฟองใหญ่เกาะด้านบน และต้องมีความหนืดพอให้ควบคุมการเทได้
ต้องใช้เวลาฝึกนานแค่ไหนกว่าจะทำลาเต้อาร์ตสวยได้?
ขึ้นอยู่กับการฝึก แต่โดยทั่วไป หากฝึกสม่ำเสมออาจใช้เวลา 1–3 เดือนเพื่อควบคุมการตีฟองและเทลายขั้นพื้นฐานได้
ทำไมลายลาเต้อาร์ตไม่ชัด?
เพราะฟองนมไม่เนียนพอ หรือการเทเร็ว/ช้าเกินไป ทำให้ลายแตกหรือจาง